คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบ หรือโดยทุจริตอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นั้น จะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเฉพาะแต่ตามหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นโดยตรงตามที่ได้รับมอบหมายในหน้าที่นั้น ๆ เท่านั้น ถ้าการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติที่ไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของพนักงานผู้นั้นโดยตรงแล้ว ก็ย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรานี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ กับพวกได้บังอาจมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองจำเลยที่ ๒ เป็นพนักงานป่าไม้มีหน้าที่รักษาและใช้ดวงตราประทับไม้ ได้บังอาจใช้ดวงตราตีประทับไม้ที่จำเลยที่ ๑ กับพวกมีไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย เพื่อแสดงว่าไม้นั้นเป็นไม้นอกประเภทหวงห้ามอันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตและบังอาจออกใบเบิกทางรับรองว่าไม้ที่จำเลยที่ ๑ กับพวกมีไว้เป็นไม้นอกประเภทหวงห้าม โดยจำเลยมิได้มีอำนาจที่จะออกใบเบิกทางนั้นได้ ทั้งนี้โดยจำเลยที่ ๑ กับพวกได้บังอาจร่วมกันสนับสนุนในการที่จำเลยที่ ๒ กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๗,๖๙,๗๔,๗๔ ทวิ พระราชบัญญัติป่าไม้ห่วงห้าม พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๔ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗,๑๖๐,๘๓,๘๖ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๑๓ กับขอให้ริบของกลางด้วย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายล้วนจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๗,๖๙,๗๔ พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๕,๑๒ ให้ลงโทษจำคุก ๙ เดือน จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม จำคุก ๖ เดือน แต่จำเลยที่ ๑ ต้องชังมาพอกับโทษแล้ว ให้ปล่อยตัวไป นายสมคิดจำเลยที่ ๒มีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ ให้จำคุก ๒ ปี ริบรถสาลี่และไม้ของกลาง
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๒ เป็นพนักงานป่าไม้อำเภอปราณบุรีไม่มีอำนาจที่จะออกใบเบิกทางได้ อำนาจออกใบเบิกทางตามกฎหมายเป็นอำนาจของนายอำเภอประจำอำเภอนั้น ๆ จำเลยที่ ๒ ไม่มีหน้าที่ออกใบเบิกทางแล้วออกใบเบิกทางให้ จึงไม่ถือว่าเป็นการกระทำตามหน้าที่ การกระทำของจำเลยที่ ๒ จึงไม่มีความผิด พิพากษาแก้ เป็นให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๒ นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา ๑๕๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ต้องระวางโทษฯ” ตามตัวบทกฎหมายดังกล่าวนี้ได้บ่งความหมายไว้ชัดเจนแล้วว่า การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบหรือโดยทุจริตอันจะเป็นความผิดตามมาตรา ๑๕๗ นั้น จะต้องเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติเฉพาะแต่ตามหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้นั้นโดยตรง ตามที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่นั้น ๆ เท่านั้น ถ้าการปฏิบัติหรือละเว้นที่ไม่เกี่ยวกับหน้าที่ของพนักงานผู้นั้นโดยตรงแล้ว ก็ย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรานี้ ข้อเท็จจริงในคดีนี้ได้ความยุติแล้ว นายสมคิดจำเลยซึ่งเป็นพนักงานป่าไม้จัตวา อำเภอปราณบุรี ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายหรือได้รับมอบอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายให้เป็นผู้ออกหรือลงชื่อในใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ได้แต่อย่างไรเลย หน้าที่ในการออกหรือลงชื่อในใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่นั้นเป็นของนายอำเภอเมือง ปราณบุรี หรือ นายสุทัศน์ ประชิต พนักงานป่าไม้ตรีอำเภอเมืองปราณบุรี ซึ่งนายอำเภอเมืองปราณบุรีมอบหมายให้กระทำได้เป็นการเฉพาะตัวนายสุทัศน์ ประชิต เท่านั้น การที่นายสมคิดจำเลยได้ออกหรือลงชื่อในใบเบิกทางนำไม้ของป่ารายพิพาทเคลื่อนที่ให้นายจเร อินทรสมบัติไปนั้นไม่ใช่การปฏิบัติในหน้าที่ของนายสมคิดจำเลย ฉะนั้น นายสมคิดจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ พิพากษายืน

Share