แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวเจ้าหนี้ซึ่งกระทำกันโดยลูกหนี้ทำหนังสือสัญญากู้ยืมให้เจ้าหนี้ใหม่นั้นเพียงเท่านี้ ก็ถือได้ว่ามีการยินยอมเป็นหนังสืออยู่ในตัวแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไป 2 ราย ๆ หนึ่ง 9,000 บาท อีกรายหนึ่ง4,000 บาท จำเลยค้างชำระรวมทั้งดอกเบี้ยด้วยเป็นเงิน 14,887.50 บาทขอให้ศาลบังคับ
จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้กู้เงินโจทก์และไม่ได้รับเงินไปจากโจทก์ตามฟ้องสัญญากู้ปลอมจำเลยเคยกู้ก็ได้ใช้หมดแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ทำสัญญา 2 ฉบับที่โจทก์ฟ้องจริงและยังไม่ได้ชำระให้โจทก์ ข้อกฎหมายที่จำเลยต่อสู้ว่าการแปลงหนี้ใช้ไม่ได้นั้นเห็นว่าการที่จำเลยยอมเป็นลูกหนี้โจทก์ตามสัญญากู้ใหม่แล้ว ปัญหาเรื่องการยินยอมหรือการแจ้งการโอนหนึ่งเป็นหนังสือย่อมไม่มีเพราะจำเลยยอมเป็นหนังสือในตัวแล้ว ส่วนการที่โจทก์นำสืบว่าเดิมสัญญากู้ 4 ฉบับไม่ใช่ 2 ฉบับดังฟ้องนั้นก็เป็นการสืบถึงมูลหนี้ ไม่ใช่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็นไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย ศาลฎีกาพิพากษายืน