แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ที่ดินของจำเลยที่ 1 เนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน 66 ตารางวา ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองขอนแก่น ได้จำนองไว้กับโจทก์เมื่อวันที่ 25กุมภาพันธ์ 2526 ในวงเงิน 1,100,000 บาท ต่อมาเดือนกันยายน 2530โจทก์ขอออกหมายบังคับคดีตีราคา 1,000,000 บาท การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีตีราคา 190,000 บาท และเห็นชอบให้ขายจนศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายแก่โจทก์ ซึ่งสู้ราคาสูงสุด 300,000 บาท ในการขายทอดตลาดครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2531 หลังวันจดทะเบียนจำนองถึง 5 ปี โดยไม่มีเหตุผลอื่นมาหักล้างเช่นที่ดินเสื่อมราคาเพราะทำประโยชน์ไม่ได้ หรือไม่มีทางเข้าออก จึงเป็นการขายโดยรวบรัดและกดราคา เป็นการขายทอดตลาดที่ไม่สุจริตและไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ให้ชำระหนี้ตามสัญญาบัญชีเดินสะพัด ให้ไถ่ถอนจำนอง โจทก์และจำเลยทั้งสี่ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอมแล้วจำเลยทั้งสี่ไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์ขอให้บังคับคดีแล้วนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินหลายแปลงรวมทั้งที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 128 ตำบลศิลาอำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ของจำเลยที่ 1 ที่จดทะเบียนจำนองไว้กับโจทก์ออกขายทอดตลาด ต่อมาเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินแปลงดังกล่าวของจำเลยที่ 1 ให้แก่โจทก์ ซึ่งให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน 300,000 บาท
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่า ที่ดินแปลง น.ส.3 เลขที่ 128ของจำเลยที่ 1 ตั้งอยู่ในทำเลดีภายในเขตเทศบาลเมืองขอนแก่นมีราคาซื้อขายในท้องตลาดไม่ต่ำกว่า 1,100,000 บาท ซึ่งเท่ากับทุนทรัพย์ที่จำนองไว้กับโจทก์ แต่โจทก์ให้ราคาเพียง 300,000 บาทราคาดังกล่าวยังต่ำมาก หากเลื่อนการขายไปอีกครั้งจะมีผู้ให้ราคาสูงกว่านี้ ประกอบกับเจ้าพนักงานบังคับคดียังมิได้สอบถามราคาประเมินของทางราชการ การบังคับคดีจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนและยกเลิกการขายทอดตลาดกับขอให้ขายทอดตลาดใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การขายทอดตลาดทรัพย์เสร็จสิ้นไปแล้วไม่มีเหตุจะต้องไต่สวนและมีคำสั่งใหม่อีก ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 1 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกเลิกการขายทอดตลาดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 128 ของจำเลยที่ 1 โดยให้ประกาศขายใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ที่ดินของจำเลยที่ 1ตาม น.ส.3 เลขที่ 128 เนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน 66 ตารางวา อยู่ในเขตเทศบาลเมืองขอนแก่นได้จำนองไว้กับโจทก์เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์2526 โจทก์ตีราคาจำนอง 1,100,000 บาท วันที่ 23 กันยายน 2530โจทก์ขอให้ออกหมายบังคับคดีตีราคาที่ดินแปลงนี้ 1,000,000 บาทเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินนี้ตีราคา 190,000 บาท ขายทอดตลาดครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2531 โจทก์สู้ราคาสูงสุด 300,000 บาทเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นชอบ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายแก่โจทก์ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์มีว่าการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าเมื่อปี 2526โจทก์ตีราคาจำนองไว้ 1,100,000 บาท ซึ่งปกติราคาจำนองจะต่ำกว่าราคาที่แท้จริงและในวันที่โจทก์ขอออกหมายบังคับคดีโจทก์ตีราคา1,000,000 บาท ประกอบกับที่ดินแปลงนี้เป็นแปลงใหญ่ อยู่ในเขตเทศบาลเมืองนับจากวันจำนองถึงวันขายทอดตลาดนานถึง 5 ปี ที่ดินย่อมมีราคาสูงขึ้นกว่าเดิม เจ้าพนักงานบังคับคดีน่าจะรู้ได้ว่าที่ดินแปลงนี้ราคาไม่ต่ำกว่าเดิมคือ 1,100,000 บาท หากจะขายทอดตลาดในราคาต่ำกว่านี้ก็น่าจะมีเหตุผลมาหักล้างเช่นที่ดินเสื่อมราคาทำประโยชน์ไม่ได้ ไม่มีทางเข้าออกหรือราคาประเมินต่ำกว่านี้แต่หาได้มีเหตุผลปรากฏไม่กลับได้ความจากนายอาคม จันทรวิจิตรเจ้าพนักงานบังคับคดี และนายต่อศักดิ์ โสดามรรค พยานจำเลยที่ 1ว่ายังไม่ได้รับแจ้งราคาประเมินจากเจ้าพนักงานที่ดินและปกติเจ้าพนักงานบังคับคดีจะตีราคาต่ำกว่าราคาประเมิน 30 เปอร์เซ็นต์ทั้งเป็นการขายทอดตลาดครั้งแรก จำเลยที่ 1 มอบให้ทนายมาคัดค้านว่าขายทอดตลาดในราคาต่ำไป ขอให้เลื่อนไปขายใหม่จะหาคนมาซื้อให้สูงกว่านี้ แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีกลับเห็นชอบให้ขายไปในราคาเพียง300,000 บาท โดยไม่คำนึงถึงเหตุผล โจทก์เองก็ให้ราคาต่ำกว่าราคาจำนองและราคาที่ตนประเมินขณะขอออกหมายบังคับคดีอยู่มากจึงเป็นการขายโดยรวบรัดและกดราคา ฟังได้ว่าเป็นการขายทอดตลาดที่ไม่สุจริตและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ควรยกเลิกการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยที่ 1 ดังกล่าว ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาชอบแล้วฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน