แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของโจทก์ไม่เป็นฎีกาที่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จึงไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาที่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245,247 และ 252 โปรดรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยยังมิได้รับสำเนาคำร้อง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 38,900 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปแก่โจทก์
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความยอมชำระเงินจำนวน 2,000 บาท ให้แก่โจทก์โดยผ่อนชำระเดือนละ 500 บาททุกวันที่ 1 ของเดือนนับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2543 เป็นต้นไป โจทก์ยอมตามจำเลยที่ 1และขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 และพิพากษาตามยอมให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 54)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 54)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของโจทก์กล่าวแต่เพียงข้อเท็จจริงและบทกฎหมายบางบทลอย ๆ หาได้กล่าวโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าวินิจฉัยคดีไม่ชอบอย่างไรจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ