คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไม้รายนี้เป็นไม้ที่ป่าไม้เขตทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่าตามอำนาจและหน้าที่ จึงเป็นไม้ที่อยู่นอกบังคับของมาตรา 11 เรื่องการทำไม้หวงห้าม โดยข้อยกเว้นของมาตรา 17 (1) จำเลยทำไม้ตามสัญญาที่ป่าไม้เขตจ้างจำเลย ฉะนั้น การแปรรูปไม้รายนี้ไม่อยู่ในข้อบังคับของบทบัญญัติเรื่องแปรรูปไม้ที่จะต้องให้เจ้าหน้าที่อนุญาต เช่น กรณีปกติอื่น ดๆ ตามนัยนที่ยกเว้นไว้ใน มาตรา 50 ข้อ 1

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ รับจ้างทำไม้บำรุป่าโครงการไชยครามจำเลยร่วมกันแปรรูปไม้เคี่ยมอันเป็นไม้หวงห้าม ปริมาตร ๒๖๔.๓๖ เมตรลูกบาศก์ มีไว้ในครอบครอง โดยไม่รับอนุญาต จำเลยร่วมกันชักลากล่องเคลื่อนย้ายไม้นั้นจากป่าไปยังโรงเลื่อยของบริษัทอุดมวนผลนอกเขตป่า ไม่มีใบเบิกทาง ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบอนุญาต ผ่านด่าน ขอให้ลงโทษและริบไม้
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ มีผิดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ มาตรา ๔๘, ๔๙, ๗๒ และฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๑๗ ปรับ ๒๐๐ บาท ข้อหานอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ไม่รายนี้รับกันว่า เป็นไม้ที่ป่าไม้เขตทำเพื่อประโยชน์ในการบำรุงป่าตามอำนาจและหน้าที่ จึงเป็นไม้ที่อยู่นอกบังคับของมาตรา ๑๑ เรื่องการทำไม้หวงห้าม โดยข้อยกเว้นของมาตรา ๑๗ (๑) จำเลยทำไม้ตามสัญญาที่ป่าไม้เขตจ้างจำเลย ฉะนั้น การแปรรูปไม้รายนี้ไม่อยู่ในข้อบังคับของบทบัญญัติเรื่องแปรรูปไม้ที่จะต้องให้เจ้าหน้าที่อนุญาต เช่น กรณีปกติอื่น ๆ ตามนัยนที่ยกเว้นไว้ใน มาตรา ๕๐ ข้อ ๑ แม้จำเลยที่ ๑ จะไม่อุทธรณ์แต่เมื่อโจทก์ยังอุทธรณ์ฎีกาให้ริบไม้รายนี้อยู่ ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาในข้อนี้ได้
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งหมด รวมทั้งที่ขอให้ริบของกลางด้วย

Share