แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มาตรา 1386 แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความมาใช้บังคับในเรื่องอายุความได้สิทธิครอบครองด้วยโดยอนุโลม ฉะนั้น จึงนำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความ สะดุดหยุดลงมาให้แก่การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองได้
ฟ้องโจทก์ที่ระบุถึงเรื่องโจทก์ไปร้องต่ออำเภอว่าจำเลยบุกรุกล้อมรั้ว จำเลยยอมรื้อรั้วกับอำเภอแล้ว เช่นนี้ อย่างน้อยก็มีผลเป็นการรับสภาพตามสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงอย่างหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๐๔ จำเลยกับพวกบังอาจบุกรุกเอาเสาไม้แก่นล้อมรั้วเข้ามาในที่ดินของโจทก์ โจทก์ ยื่นคำร้องต่ออำเภอท้องที่ซึ่งได้เรียกไปสอบสวน จำเลยยอมรับจะรื้อแล้ว แต่กลับเพิกเฉย ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การปฏิเสธและต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ จึงพิพากษายก ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๖ ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความมาใช้บังคับในเรื่องอายุความได้สิทธิครอบครองด้วยอนุโลมฉะนั้น จึงนำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความสะดุดหยุดลงมาใช้บังคับแก่อายุความ ได้สิทธิตามมาตรา ๑๓๗๕ ได้ตามฟ้องของโจทก์ที่ระบุถึงเรื่องโจทก์ไปร้องต่ออำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี อำเภอโคกสำโรง ฯ เรียกจำเลยไปสอบสวน จำเลยรับว่าจะรื้อถอนรั้วออกไปจากที่ดินของโจทก์นั้น อย่างน้อยก็มีผลเป็นการรับสภาพตามสิทธิของโจทก์ ซึ่งเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามมาตรา ๑๗๒ และฟ้องของโจทก์ที่ระบุถึงกรณีดังกล่าวนั้นไม่เคลือบคลุม คดีมีเหตุอันสมควรที่จะให้คู่ความนำสืบกันต่อไป
พิพากษายืนให้ยกฎีกาจำเลย