แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขนสิ่งของจากในราชอาณาจักรเพื่อจะนำออกไปนอกราชอาณาจักรไปตามทางนอกเส้นทางอนุมัติและนอกเวลาที่อธิบดีศุลกากรประกาศกำหนดไว้ แม้จะยังไม่ทันข้ามแดนไปโดยถูกจับเสียก่อน คดีเข้าคั่นพยายามแล้ว ก็ย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ( ฉะบับที่ 7 ) พ.ศ.2480 มาตรา 5,10 ประกอบด้วย ฉะบับที่ 11 พ.ศ.2490 มาตรา 3
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขนส่งผลิตภัณฑ์ดิบ เผาชามฝา ถ้วยกาแฟ และดินสอดำ รวมราคาประเมิณ ๑๙๘๐๐ บาท โดยพาหนะรถยนต์จากด่านศุลกากรอรัณณประเทศ ไปยังเขตแดนทางบกระหว่างอาณาจักรไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส แต่ไปตามทางเกวียนนอกเส้นทางอนุมัติ และขนส่งนอกเวลาที่อธิบดีกรมศุลกากรกำหนดไว้ตามกฎกระทราวงการคลัง โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ ฉะบับที่ ๗ พ.ศ.๒๔๘๐ มาตรา ๕,๑๐ และฉะบับที่ ๑๑ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ขนส่งของด้วยยานพาหนะรถยนต์ นอกเส้นทางอนุมัติ และผิดเวลาที่กำหนดไว้ จริงตามฟ้อง จึงพิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้วย่อมฝ่าฝืน พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๔๘๐ มาตรา ๕ แม้เพียงพยายามก็เป็นความผิด คดีนี้จำเลยแล่นรถมุ่งหน้าไปชายแดน ถ้าไม่ถูกจับเสียก่อนก็จะถึงชายแดนในคืนนั้นเอง คดีเข้าคั่นพยายามแล้วศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน