แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์เคยเป็นฝ่ายขอเลื่อนคดีมา 2 ครั้งแล้วจำเลยมิได้เคยคัดค้านเลยครั้งหลังนี้ ทนายจำเลยไม่อยู่โดยไปต่างจังหวัดเสียมิได้บอกจำเลยและศาลให้ทราบ จำเลยจึงขอเลื่อนเป็นครั้งแรก แต่ฝ่ายโจทก์คัดค้านเช่นนี้ ศาลย่อมสั่งให้เลื่อนการพิจารณาต่อไปตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 10 ได้
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่พิพาทอันเป็นมรดก
จำเลยต่อสู้คดีหลายประการ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยมีหน้าที่สืบพยานก่อน แต่ไม่นำพยานมาศาล เป็นการประวิงคดี จึงพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นด้วย พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีเรื่องนี้ปรากฎว่าโจทก์เคยเป็นฝ่ายขอเลื่อนคดีมา ๒ ครั้งแล้ว จำเลยมิได้คัดค้านเลย ครั้งหลังนี้ทนายจำเลยไม่อยู่ไปจังหวัดชัยนาท โดยมิได้บอกจำเลยและศาลให้ทราบ ตัวจำเลยจึงขอเลื่อนเป็นครั้งแรก ฝ่ายโจทก์คัดค้านจำเลยแถลงเหตุผลว่า พยานของจำเลยมาพร้อมกันที่บ้านทนายแต่ภริยาทนายบอกให้กลับหมดเพราะทนายไม่อยู่
พยานของจำเลยเป็นพยานที่ศาลออกหมายเรียกก็มี พยานเซ็นทราบวันนัดไว้แล้วก็มี การที่พยานไม่มายังศาลตามหน้าที่ของพยาน ควรจะตำหนิว่าเป็นความผิดของพยานจึงจะชอบ จะยกเอามาเป็นเหตุว่า จำเลยประวิงความให้ชักช้าตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๘๖ วรรค ๒ นั้น หาถูกต้องกับความเป็นจริงไม่ ศาลย่อมสั่งเลื่อนการพิจารณาต่อไปตามมาตรา ๔๐ ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน