แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กล่าวหาผู้มีชื่อว่ากระทำผิดต่อเจ้าพนักงานซึ่งเป็นความเท็จนั้น เป็นความผิดตามมาตรา 158.
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ได้สมคบกันแจ้งต่อนายพันตำรวจโทบรรจงว่าผู้มีชื่อหลายคนสมคบกันเพื่อจะขบฎ และได้รายงานเหตุการณ์ต่างๆ ตลอดมาซึ่งเป็นความเท็จศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๒ ฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา ๒๘๒
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยที่ ๒ สมคบกับ จำเลยที่ ๓ แกล้งกล่าวหาผู้มีชื่อด้วยความเท็จจึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๘ วรรค ๒ ซึ่งแก้ไขตามพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ๒๔๗๗ ฉะบับที่ ๓ มาตรา ๔
จำเลยที่ ๒ ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยที่ ๒ สมคบกับจำเลยที่ ๓ นำเอกความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปร้องเรียนต่อเจ้าพนักงานโดยเจาะจงผู้มีชื่อว่าได้กระทำผิด จึงมีความผิดตามมาตรา ๑๕๘ ไม่ใช่ผิดตามม.๑๑๘ ซึ่งเป็นเรื่องที่แจ้งความเท็จว่า เหตุได้เกิดขึ้นโดยมิได้เจาะจงกล่าวหาผู้ใด จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ในข้อนี้.