แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การใช้สิทธิทางศาลจักต้องกระทำโดยสุจริต ไม่จงใจจะให้ผู้ใดได้รับความเสียหายโดยใช้ศาลเป็นเครื่อง+บัง
+ชนะคดีร้องต่อศาลให้ยึดทรัพย์ผู้แพ้คดีก่อนครบกำหนดในหมายบังคับโดยเจตนาแกล้งให้ผู้แพ้คดีได้รับความเสียหายนั้น ผู้แพ้คดีฟ้องเรียกค่าเสียหายได้
อ้างฎีกาที่ 376/2481
ย่อยาว
เดิมศาลพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายกับค่าธรรมเนียมค่าทนายรวมทั้งสิ้น ๑๖๐๐ บาท ๖๐ สตางค์ ศาลได้ออกหมายบังคับแล้ว ก่อนถึงกำหนดใน+บังคับจำเลยไปร้องต่อนายอำเภอว่า โจทก์ยักยอกทรัพย์ขอให้ไปอายัติทรัพย์และจำเลยรับรองไว้ด้วยว่าถ้าหากมีการเสียหายเกิดขึ้นจำเลยยอมรับผิดนายอำเภอจึงได้ห้ามโจทก์มิให้จำหน่ายทรัพย์แล้วจำเลยยังร้องต่อศาลว่าโจทก์หลบหนีและเจตนาไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของศาลทั้งภรรยาโจทก์ได้ยักย้ายทรัพย์สินที่มีอยู่ ขอให้ศาลยึดทรัพย์โจทก์ก่อนครอบกำหนดคำบังคับคดี ศาลจึงมีคำสั่งให้ยึดได้ก่อนถึงกำหนดในหมายบังคับรุ่งขึ้นภรรยาโจทก์ได้นำเงินในคำบังคับมาชำระต่อศาล ที่จำเลยทำไปนั้นจำเลยรู้ดีแล้วว่าโจทก์มีทรัพย์ใช้หนี้ และโจทก์ไม่ได้ทำการหลีกเลี่ยง ทั้งนี้โดยจำเลยตั้งใจแกล้งให้โจทก์เสียหาย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยขอให้ยึดโดยเจตนาแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย จึงพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
ศาลฎีกาพิพากษายืนและอ้างถึงฎีกาที่ ๓๗๖/๒๔๘๑ ด้วยว่า การใช้สิทธิทางศาลจักต้องกระทำโดยสุจริต ไม่จงใจจะให้ผู้ใดได้รับความเสียหายโดยใช้ศาลเป็นเครื่องกำบัง