คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การยื่นคำร้องขอให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคู่ความภายหลังยื่นฟ้องหรือคำให้การแล้ว จำต้องชี้แจ้งเหตุผลประกอบให้ปรากฏด้วยว่า เหตุใดจึงไม่อาจยื่นคำร้องขอหมายเรียกเสียเมื่อแรกยื่นฟ้อง ทั้งนี้ เพื่อศาลจะได้พิจารณาว่ามีเหตุสมควรที่จะให้ออกหมายเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคู่ความด้วยหรือไม่ ฉะนั้น เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องขอให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นโจทก์ด้วย โดยอ้างแต่เหตุเพื่อคุ้มครองรักษาผลประโยชน์ของตนแต่ประการเดียว ส่วนเหตุผลที่มายื่นคำร้องล่วงเลยล่าช้า ไม่ได้กล่าวอ้างไว้เลย เช่นนี้ศาลก็ต้องสั่งยกคำร้องของโจทก์นั้นเสีย (อ้างฎีกาที่ 706/2505)

ย่อยาว

กรณีนี้ เป็นเรื่องชั้นโจทก์ขอให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมในคดีที่ฟ้องจำเลย

โจทก์ฟ้องว่า บริษัทจำเลยมีผู้ถือหุ้นหลายคน ผู้ถือหุ้น 7 คนได้มอบหมายให้นายพิพัฒน์ ลิมปพยอม โอนหุ้นให้แก่โจทก์ และนายพิพัฒน์ได้จัดการโอนหุ้นให้แก่โจทก์แล้ว โจทก์และผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนก็ได้แจ้งให้จำเลยทราบเพื่อให้จำเลยจัดการแก้ทะเบียนหุ้นใส่ชื่อโจทก์แทน แต่จำเลยเพิกเฉยเสีย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยแก้ชื่อผู้ถือหุ้นเดิมออกใส่ชื่อโจทก์แทน

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นชี้สองสถานแล้ว ให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน แต่ถึงวันนัด โจทก์ขอเลื่อน ต่อมา โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้หมายเรียกผู้มีชื่อ 7 คน ซึ่งระบุว่าได้โอนหุ้นให้แก่โจทก์เข้ามาเป็นโจทก์ร่วม อ้างเหตุว่าโจทก์ได้รับโอนหุ้นจากบุคคลเหล่านั้น ถ้าหากศาลพิพากษาให้โจทก์แพ้คดี โจทก์อาจฟ้องบุคคลดังกล่าวเพื่อใช้สิทธิไล่เบี้ยและเพื่อคุ้มครองสิทธิของโจทก์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าคำร้องของโจทก์กรณีไม่เข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(3) ทั้งโจทก์ไม่แสดงเหตุผลให้ปรากฏว่าเพราะเหตุใดจึงเพิ่งยื่นคำร้อง ให้ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาเห็นว่า การยื่นคำร้องขอให้หมายเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคู่ความในภายหลังเช่นคดีนี้นั้น จำต้องชี้แจ้งเหตุผลประกอบมาให้ปรากฏด้วยว่า เหตุใดจึงไม่อาจยื่นคำร้องขอหมายเรียกเสียเมื่อแรกยื่นฟ้อง ทั้งนี้เพื่อศาลจะได้พิจารณาว่ามีเหตุสมควรที่จะให้ออกหมายเรียกบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคู่ความด้วยหรือไม่เป็นประการสำคัญ แต่การยื่นคำร้องของโจทก์ที่ขอให้หมายเรียกบุคคลภายนอกที่ว่าเป็นผู้โอนหุ้นให้ตนเข้ามาเป็นโจทก์ด้วย อ้างแต่เหตุเพื่อคุ้มครองรักษาผลประโยชน์ของโจทก์แต่ประการเดียว ส่วนเหตุผลที่มายื่นคำร้องขอให้เรียกบุคคลภายนอกล่วงเลยล่าช้านั้นไม่ได้หยิบยกขึ้นแสดงไว้เลย เมื่อโจทก์ปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามความประสงค์ของกฎหมาย โดยขาดองค์ประกอบอันจำเป็น ศาลก็มีทางที่จะทำได้ก็แต่สั่งยกคำร้องของโจทก์เสียฉะนั้น ที่ศาลทั้งสองไม่รับคำร้องของโจทก์จึงเป็นการชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์

Share