แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยนำเงินจาก ว. แล้วไปซื้อเมทแอมเฟตามีนมาให้ ว. เป็นกรณีที่จำเลยช่วยซื้อเมทแอมเฟตามีนให้ ว. เพื่อนำมาเสพด้วยกันเหมือนเช่นเคย หาใช่เป็นการขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน หรือให้ ตามบทนิยามศัพท์ คำว่า “จำหน่าย” ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66 และนับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1178/2546 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง ลงโทษจำคุก 4 ปี คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 67 ปรับ 21,000 บาท คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 14,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังยุติในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2546 จำเลยถูกดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า แม้โจทก์มีนายวัลลภและนายสิทธิโชคเป็นประจักษ์พยาน เบิกความยืนยันว่า พยานซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยมาเสพ แต่ก็ต้องรับฟังอย่างระมัดระวัง เพราะนายวัลลภและนายสิทธิโชคต่างเบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านรับว่า พยานเคยเสพเมทแอมเฟตามีนกับจำเลย ทั้งนายสิทธิโชคเบิกความต่อไปว่า ในช่วงที่พยานเสพเมทแอมเฟตามีน พยานไม่เคยซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลย ส่วนที่นายวัลลภเบิกความตอบทนายจำเลยถามค้านว่า ในเดือนมกราคม 2546 พยานถามจำเลยว่า “มียาบ้าเสพหรือไม่” จำเลยบอกว่า ให้เอาเงินมา 120 บาท แล้วจำเลยได้ไปซื้อเมทแอมเฟตามีนมาให้พยาน จึงเป็นกรณีที่จำเลยช่วยซื้อเมทแอมเฟตามีนให้นายวัลลภเพื่อนำมาเสพด้วยกันเหมือนเช่นเคย หาใช่จำเลยมีเจตนาขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน หรือให้ อันจะต้องด้วยบทนิยามศัพท์ของคำว่า “จำหน่าย” ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ไม่ คำเบิกความของประจักษ์พยานโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังว่า จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่นายวัลลภและนายสิทธิโชคเมื่อโจทก์ไม่มีพยานแวดล้อมอื่นประกอบ ลำพังคำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนจะนำมารับฟังลงโทษจำเลยไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน โดยลงโทษจำเลยฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่ได้ความในทางพิจารณานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน