แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เครื่องหมายการค้าคำว่า “HEXAXIM” ของโจทก์ขอจดทะเบียนในสินค้าจำพวกที่ 5 คือ ยา เช่นเดียวกับเครื่องหมายการค้า “EXAZYM” ของ ค. แต่สินค้าของโจทก์เป็นวัคซีน ส่วนสินค้าของ ค. เป็นสารที่เตรียมขึ้นใช้ในการวินิจฉัยโรค ใช้ในทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับไวรัส แม้เป็นสินค้าจำพวกยาเหมือนกัน แต่มีลักษณะการใช้แตกต่างกัน โดยวัคซีนของโจทก์ใช้ฉีดสำหรับเด็กเพื่อป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน ฯลฯ ไม่ได้จำหน่ายแก่ร้านค้าหรือร้านขายยาทั่วไป แต่ขายให้แก่ตัวแทนจำหน่ายนำสินค้าไปกระจายให้แก่โรงพยาบาลหรือผู้มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ วัคซีนนี้ต้องเก็บไว้ในตู้เย็น บนกล่องระบุชัดเจนว่าเป็นยาอันตราย ผู้ใช้คือแพทย์ เภสัชกร หรือพยาบาล ส่วนสินค้าเครื่องหมายการค้า “EXAZYM” ที่จดทะเบียนแล้วซึ่งเป็นสารที่เตรียมขึ้นใช้ในการวินิจฉัยโรคใช้ในทางการแพทย์นั้น กลุ่มผู้ใช้สินค้าคือนักเทคนิคการแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ทำงานในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ โดยใช้สารในการวินิจฉัยโรคจากสิ่งที่ส่งตรวจ เช่น เลือด ปัสสาวะ เป็นต้น ไม่มีจำหน่ายตามร้านขายยาและร้านค้าทั่วไป ต้องซื้อจากตัวแทนจำหน่ายของผู้ผลิต โดยตัวแทนจะติดต่อกับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์โดยตรงและมีราคาสูง ส่วนวัคซีนตัวแทนจำหน่ายจะติดต่อกับแพทย์ในโรงพยาบาลซึ่งเป็นคนละส่วนกัน เห็นได้ว่าผู้ใช้สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า “HEXAXIM” กับผู้ใช้สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า “EXAZYM” เป็นคนละกลุ่มกัน และผู้ใช้สินค้าแต่ละกลุ่มต่างก็เป็นผู้มีวิชาชีพ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและความชำนาญเฉพาะทาง ย่อมสามารถแยกแยะสินค้าทั้งสองได้โดยไม่สับสนหรือหลงผิด นอกจากนั้น ช่องทางในการจำหน่ายสินค้าก็แตกต่างกัน ทั้งไม่ได้วางจำหน่ายในร้านขายยาหรือร้านค้าทั่วไป แม้เครื่องหมายการค้าทั้งสองจะมีเสียงเรียกขานคล้ายกัน แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะทำให้สาธารณชนผู้ใช้สินค้าสับสนหรือหลงผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่า เครื่องหมายการค้า คำว่า “HEXAXIM” ตามคำขอเลขที่ 636482 ของโจทก์ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้า คำว่า “EXAZYM” ตามทะเบียนเลขที่ ค 234448 จนทำให้สาธารณชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของสินค้าหรือแหล่งกำเนิดของสินค้า และมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าที่ 90/2551 และรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ดังกล่าวต่อไป
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามหนังสือของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ พณ.0704/3977 และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าที่ 90/2551 ที่ปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “HEXAXIM” ของโจทก์ตามคำขอเลขที่ 636482 ให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าดำเนินการเกี่ยวกับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
จำเลยยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีพร้อมอุทธรณ์ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์ขอจดทะเบียนในสินค้าจำพวกที่ 5 คือ ยา เช่นเดียวกับเครื่องหมายการค้าของคาวิดิ เทค เอบี แต่สินค้าของโจทก์เป็นรายการสินค้า วัคซีน ส่วนสินค้าของคาวิดิ เทค เอบี เป็นรายการสินค้า สารที่เตรียมขึ้นใช้ในการวินิจฉัยโรค ใช้ในทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับไวรัสและโรคที่เกิดจากไวรัส แม้จะเป็นสินค้าจำพวกยาเหมือนกัน แต่มีลักษณะการใช้แตกต่างกัน โดยได้ความจากนายจุมพล พยานโจทก์ซึ่งเป็นเภสัชกรและเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและการเงินและกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์สาขาประเทศไทยว่า สินค้าวัคซีนของโจทก์ดังกล่าวเป็นวัคซีนใช้ฉีดสำหรับเด็กเพื่อป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก สมองอักเสบ โปลิโอ และตับอักเสบบี เป็นสินค้าที่ไม่ได้จำหน่ายแก่ร้านค้าหรือร้านขายยาทั่วไป แต่จะขายให้แก่ตัวแทนจำหน่ายเพียงแห่งเดียว คือ ชิลลิค ฟาร์มา จากนั้นตัวแทนจำหน่ายจะนำสินค้าไปกระจายให้แก่โรงพยาบาลหรือผู้มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ วัคซีนนี้ต้องเก็บไว้ในตู้เย็น บนกล่องระบุชัดเจนว่าเป็นยาอันตราย ผู้ใช้คือแพทย์ เภสัชกร หรือพยาบาลส่วนสินค้าเครื่องหมายการค้า “EXAZYM” ที่จดทะเบียนแล้วซึ่งเป็นสารที่เตรียมขึ้นใช้ในการวินิจฉัยโรค ใช้ในทางการแพทย์นั้นได้ความจาก ดร.สุพันธิตรา พยานโจทก์ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาจุลทรรศน์ศาสตร์คลินิก คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า กลุ่มผู้ใช้สินค้าคือนักเทคนิคการแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ทำงานในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ โดยใช้สารในการวินิจฉัยโรคจากสิ่งที่ส่งตรวจ เช่น เลือด ปัสสาวะ อุจจาระ น้ำไขสันหลัง และไขกระดูก เป็นต้น สินค้าสารที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคจะไม่มีวางจำหน่ายตามร้านขายยาและร้านค้าทั่วไป ต้องซื้อจากตัวแทนจำหน่ายของบริษัทผู้ผลิตโดยตัวแทนจะติดต่อกับห้องปฏิบัติการทางการแพทย์โดยตรง และสินค้านี้มีราคาสูงประมาณ 10,000 บาท ถึง 20,000 บาท ส่วนวัคซีนตัวแทนจำหน่ายจะติดต่อกับแพทย์ในโรงพยาบาลซึ่งจะเป็นคนละส่วนกัน จึงเห็นได้ว่า ผู้ใช้สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า “HEXAXIM” กับผู้ใช้สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า “EXAZYM” เป็นคนละกลุ่มกัน และผู้ใช้สินค้าแต่ละกลุ่มต่างก็เป็นผู้มีวิชาชีพ มีความรู้ความเชี่ยวชาญและความชำนาญเฉพาะทาง ย่อมสามารถแยกแยะสินค้าทั้งสองดังกล่าวได้โดยไม่สับสนหรือหลงผิด นอกจากนั้น ช่องทางในการจำหน่ายสินค้าก็แตกต่างกัน ทั้งไม่ได้วางจำหน่ายในร้านขายยาหรือร้านค้าทั่วไป ที่จำเลยอ้างในอุทธรณ์ว่านายจุมพลเบิกความว่า ร้านขายยาที่มีใบอนุญาตขายยาอันตรายมีวัคซีนดังกล่าวขายได้ สาธารณชนย่อมมีโอกาสซื้อทำให้อาจสับสนหรือหลงผิดนั้น เห็นว่า นายจุมพลก็เบิกความด้วยว่าร้านขายยาอันตรายดังกล่าวจะขายยาให้ตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น ไม่สามารถซื้อเองโดยปราศจากใบสั่งแพทย์ ผู้ป่วยส่วนมากแม้จะซื้อมาแล้วก็จะไม่ฉีดเอง แต่จะให้แพทย์หรือพยาบาลในโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลฉีดให้ ดังนั้น แม้เครื่องหมายการค้าทั้งสองจะมีเสียงเรียกขานคล้ายกัน แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะทำให้สาธารณชนผู้ใช้สินค้าสับสนหรือหลงผิดว่าสินค้าวัคซีนที่ใช้เครื่องหมายการค้า “HEXAXIM” ของโจทก์เป็นสินค้าที่เตรียมขึ้นใช้ในการวินิจฉัยโรค ใช้ในทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับไวรัสและโรคที่เกิดจากไวรัสซึ่งใช้เครื่องหมายการค้า “EXAZYM” ของ คาวิดิ เทค เอบี หรือมีแหล่งกำเนิดจากบริษัทดังกล่าว ฉะนั้นเครื่องหมายการค้าของโจทก์จึงเป็นเครื่องหมายการค้าอันพึงรับจดทะเบียนได้ตามมาตรา 6 (3) และมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ที่จำเลยอ้างมาในอุทธรณ์ด้วยว่าโจทก์ไม่ได้นำเสนอสัญญาระหว่างโจทก์กับคาวิดิ เทค เอบี ต่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าพิจารณาประกอบอุทธรณ์จึงไม่ทำให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมาอ้างเพื่อให้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าดังกล่าวถูกต้อง คำสั่งของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่ไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าที่ยืนตามคำสั่งปฏิเสธของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าจึงไม่ชอบดังที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน และยกอุทธรณ์คำสั่งที่จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ในส่วนอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวทั้งหมดแก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมนอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ