คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดและศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายแล้ว เมื่อจำเลยเห็นว่าการขายทอดตลาดดังกล่าวไม่เป็นธรรม เนื่องจากผู้เข้าประมูลมีโจทก์เพียงรายเดียว และทรัพย์ที่ขายมีราคาสูงกว่าราคาที่โจทก์ประมูลได้มาก เท่ากับกล่าวอ้างว่าการบังคับคดีได้กระทำโดยไม่ชอบเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และมาตรา 296 กล่าวคือจำเลยชอบที่จะยื่นคำร้องขอคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีเสร็จแต่ไม่ช้ากว่า 8 วันนับแต่วันที่ได้ทราบการฝ่าฝืน เมื่อจำเลยมิได้ร้องคัดค้านตามที่กฎหมายกำหนดไว้จำเลยจะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่.

ย่อยาว

คดีนี้ สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสามใช้เงินตามสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน และบังคับจำนอง ต่อมาโจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ ๒ ศาลชั้นต้นอนุญาต และพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ ร่วมกันชำระเงิน ๓๘๐,๐๐๐ บาท ให้โจทก์ภายในวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๒๕ หากผิดนัดให้ใช้ดอกเบี้ยในต้นเงินจำนวนดังกล่าวในอัตราร้อยละ ๑๔ ต่อปีจนกว่าจะชำระเสร็จ เมื่อครบกำหนดดังกล่าว จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ ไม่ชำระเงินให้โจทก์เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดที่ดิน ๒ แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ ๑ และที่ดิน ๑ แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ ๓ ออกขายทอดตลาด มีการประกาศขายทอดตลาดรวม ๖ ครั้ง ครั้งสุดท้ายมีโจทก์เข้าสู้ราคาเพียงคนเดียวเสนอราคา ๒๐๐,๐๐๐ บาท ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายแก่โจทก์โดยปลอดจำนอง
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ขอให้เอาทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดใหม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดและศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายแล้ว เมื่อจำเลยที่ ๑ เห็นว่าการขายทอดตลาดดังกล่าวเป็นไปโดยไม่เป็นธรรมเนื่องจากผู้ประมูลมีโจทก์เพียงรายเดียวและทรัพย์ที่ขายมีราคาสูงกว่าราคาที่โจทก์ประมูลได้มาก เท่ากับเป็นการกล่าวอ้างว่าการบังคับคดีได้กระทำโดยไม่ชอบเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย กรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗ และ ๒๙๖ กล่าวคือจำเลยที่ ๑ ชอบที่จะยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ไม่ช้ากว่า ๘ วัน นับแต่วันที่ได้ทราบการฝ่าฝืน แต่จำเลยที่ ๑ ก็มิได้ร้องคัดค้านเรื่องผิดระเบียบหรือการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ดังกล่าว ดังนั้นจำเลยที่ ๑ จะใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาหาได้ไม่
พิพากษายืน.

Share