คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1357/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สมาชิกสภาเทศบาลหรือราษฎรในท้องถิ่นนั้น ไม่มีสิทธิที่จะมาร้องหรือฟ้องศาลขอให้เพิกถอนการประชุมสภาเทศบาล โดยอ้างว่าเป็นการกระทำฝ่าฝืน พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 เพราะพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 หาได้มีบทบัญญัติให้บุคคลใช้สิทธิทางศาลในเรื่องนี้ไว้แต่อย่างไรเลย กรณีต่างกับในเรื่องเลือกตั้ง ซึ่งมีบทบัญญัติให้สิทธิเช่นนี้ไว้หรือแม้แต่ในเรื่องหุ้นส่วนบริษัทก็ยังมีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 ให้ศาลถอนมติของที่ประชุมที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือข้อบังคับของบริษัทได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องมีใจความว่า โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 9 เป็นสมาชิกเทศบาลประเภทที่ 1 โดยราษฎร เป็นผู้เลือกตั้ง จำเลยที่ 1 เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดจำเลยที่ 2, 3, 4, 5, 6 เป็นสมาชิกเทศบาลประเภทที่ 2 จำเลยที่ 1 ได้เรียกประชุมสมาชิกทั้ง 2 ประเภทเพื่อแต่งตั้งประธานสภาเทศบาล รองประธานนายกเทศมนตรี และเทศมนตรี แต่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 9 ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกเทศบาลโดยยื่นต่อจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ก็ยังขืนเปิดประชุมสภาเทศบาลซึ่งมีสมาชิกเทศบาลประเภทที่ 2 ฝ่ายเดียวเข้าประชุม แล้วได้มีการแต่งตั้งจำเลยที่ 2 เป็นประธานสภา จำเลยที่ 3 เป็นรองประธานจำเลยที่ 4 เป็นนายกเทศมนตรี จำเลยที่ 5, 6 เป็นเทศมนตรีการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 15, 17, 20, 21 และ 37 การแต่งตั้งจึงไม่ชอบ โจทก์เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเขตเทศบาล จึงขอให้ศาลเพิกถอนการประชุมสภาเทศบาลเมืองอ่างทอง ดังกล่าว และเพิกถอนคำสั่ง จำเลยที่ 1 ที่แต่งตั้งประธานสภา รองประธานสภา กับคณะเทศมนตรีเมืองอ่างทอง

จำเลยต่อสู้คดีหลายประการ และตัดฟ้องว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฯลฯ

ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิฟ้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 จึงพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีที่โจทก์นำมาฟ้องนี้กล่าวโดยสรุป ก็คือโจทก์เห็นว่าการที่บุคคลหมู่หนึ่ง เข้านั่งประชุมและลงมติกันไปนั้น ไม่เป็นการประชุมของสภาเทศบาลตามกฎหมายว่าด้วยเทศบาล จึงขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการกระทำทั้งหลายเนื่องจากการประชุมนั้นศาลฎีกาเห็นว่า จะถือว่าโจทก์จะต้องใช้สิทธิทางศาล” อย่างไรไม่ได้ ในพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 หาได้มีบทบัญญัติให้บุคคลใช้สิทธิทางศาลในเรื่องนี้ไว้แต่อย่างไรเลย กรณีต่างกันในเรื่องเลือกตั้ง ซึ่งมีบทบัญญัติให้สิทธิเช่นนี้ไว้ หรือแม้แต่ในเรื่องหุ้นส่วนบริษัท ก็ยังมีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195 ให้ศาลถอนมติของที่ประชุม ที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือข้อบังคับของบริษัทไว้ สำหรับกรณีของโจทก์ในคดีนี้กฎหมายไม่ได้บัญญัติให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะต้องใช้ในทางศาลไว้เลย โจทก์ไม่มีสิทธิอย่างใดที่จะนำคดีมาให้ศาลวินิจฉัยความเห็นแตกต่างกันระหว่างโจทก์จำเลย ส่วนสำหรับในปัญหาที่ว่า ได้มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ อย่างไรหรือไม่นั้น ศาลฎีกามองไม่เห็นว่า บุคคลที่เข้าประชุมกันนั้น ได้ทำการโต้แย้งสิทธิและหน้าที่ของโจทก์แต่ประการใด ฯลฯ

จึงพิพากษายืน

Share