แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 61 บัญญัติบังคับให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายทันทีเมื่อได้ดำเนินคดีมาตามขั้นตอนของมาตรานี้ครบถ้วนแล้ว ศาลจะงดพิพากษา หรือรอการพิพากษา หรือพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ และกฎหมายมีเจตนารมณ์ให้ขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายได้เพียงครั้งเดียว หากจำเลยจะขอประนอมหนี้อีกก็ชอบที่จะเสนอคำขอได้ในตอนหลังเมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลายแล้ว ดังนั้น การที่จำเลยยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายเข้ามาอีกอันมิใช่เป็นการขอแก้ไขคำขอประนอมหนี้ตามมาตรา 47 และเป็นการพ้นระยะเวลาตามมาตรา 45 แล้ว การยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายอีกครั้งจะทำให้คดีล้มละลายไม่อาจดำเนินไปได้โดยรวดเร็วผิดวัตถุประสงค์ของกฎหมายล้มละลายจึงเป็นการไม่ชอบ
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดจำเลยยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นัดประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติไม่ยอมรับคำขอประนอมหนี้และขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย ระหว่างนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นครั้งที่สอง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งว่าคดีอยู่ระหว่างนัดฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ไม่มีเหตุจะเสนอที่ประชุมเจ้าหนี้พิจารณา รอให้ศาลพิพากษาคดีก่อนจึงเสนอที่ประชุมเจ้าหนี้พิจารณาต่อไป
จำเลยยื่นคำร้องว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มิได้บัญญัติห้ามให้ยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายได้เพียงครั้งเดียว ขอให้เพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสนอคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายครั้งที่สองของจำเลยให้ที่ประชุมเจ้าหนี้พิจารณาต่อไป
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีล้มละลายพิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 61 ซึ่งบัญญัติว่า “เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานว่า เจ้าหนี้ได้ลงมติในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกหรือในคราวที่เลื่อนไปขอให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายก็ดี… ให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย…” ตามบทบัญญัติมาตรา 61 ดังกล่าวบังคับให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายทันทีเมื่อได้ดำเนินคดีมาตามขั้นตอนของมาตรานี้ครบถ้วนแล้ว ศาลจะงดพิพากษา หรือรอการพิพากษา หรือพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ จากบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว เห็นได้ว่ากฎหมายมีเจตนารมณ์ให้ขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายได้เพียงครั้งเดียว หากจำเลยจะขอประนอมหนี้อีกก็ชอบที่จะเสนอคำขอได้ในตอนหลังเมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลายแล้วตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 63 ที่จำเลยยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายลงวันที่ 19 ธันวาคม 2543เข้ามาอีกนั้น นอกจากจะมิได้ยื่นภายในกำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 45 แล้ว กรณีดังกล่าวก็มิใช่เป็นการขอแก้ไขคำขอประนอมหนี้ฉบับลงวันที่ 14 มีนาคม 2543 ตามมาตรา 47 แต่อย่างใด การยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายอีกครั้งจะทำให้คดีล้มละลายไม่อาจดำเนินไปได้โดยรวดเร็วผิดวัตถุประสงค์ของกฎหมายล้มละลายตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 13 และ 153 การที่จำเลยยื่นคำขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่เป็นการพ้นขั้นตอนและพ้นระยะเวลาตามมาตรา 45 จึงเป็นการไม่ชอบที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกคำร้องของจำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน