คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1345/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทุนทรัพย์ตามฟ้องเดิมแม้จะเกินห้าพันบาท แต่คู่ความได้สละข้อหาบางข้อเสียตั้งแต่ในศาลชั้นต้น คงเหลือทุนทรัพย์พิพาทกันต่อมาราคาเพียงสามพันบาท เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อยในการบังคับจำเลยเช่นนี้ คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำเจ้าพนักงานศาลปักหลักบุกรุกเข้ามาแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2 แปลง หมายอักษร ก.ราคา 3,000 บาท หมายอักษร ข.ราคา 2,100 บาท ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดังกล่าวเป็นของโจทก์ และบังคับจำเลยถอนหลักเขตแล้วขับไล่ห้ามเกี่ยวข้องต่อไป

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า เขตที่นาของจำเลยด้านทิศเหนือมีระยะจดริมดอน ให้ปักหลักมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือตรงริมดอนนี้เป็นหลักเขตที่ดินระหว่างโจทก์จำเลย แล้วชักเส้นตรงจากหลักนี้ที่ดินซึ่งอยู่ทางตะวันออกเส้นนี้เป็นของโจทก์ ที่ดินซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเส้นนี้เป็นของจำเลย

โจทก์และจำเลยต่างอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ บังคับให้จำเลยถอนหลักเขตที่ปักไว้เดิมทางมุมด้านตะวันออกเฉียงเหนืออกไปให้พ้นเขตที่ดินของโจทก์ห้ามไม่ให้จำเลยกับบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินโจทก์ตามที่พิพาทอีกต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้เดิมโจทก์ฟ้องว่าจำเลยแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดินสองแปลง ตีราคาที่พิพาทแปลง ก.3,000 บาท แปลง ข.2,100 บาท กับเรียกค่าเสียหายปีละ 500 บาท ต่อมาในชั้นศาลชั้นต้น คู่ความแถลงต่อศาลว่า ที่นาหมายอักษร ข. ได้เป็นที่ปรองดองตกลงกันแล้วและเรื่องค่าเสียหายปีละ 500 บาท โจทก์ก็ไม่ติดใจเรียกร้องคงขอให้ศาลชี้ขาดเฉพาะแนวเขตที่ดินตามแผนที่หมายอักษร ก. ราคา 3,000 บาท ด้านเดียว ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าคดีนี้มีทุนทรัพย์ 3,000 บาทรายเดียว และที่ดินรายนี้ศาลอุทธรณ์ก็มีความเห็นเรื่องเขตแดนระหว่างโจทก์จำเลยตามคำชี้ขาดของศาลชั้นต้น คงพิพากษาแก้เล็กน้อยในการบังคับจำเลยตามคำขอของโจทก์เต็มทุกประการเพราะศาลชั้นต้นยังมิได้พิพากษาให้ตามโจทก์ขอ ฉะนั้น คดีนี้แม้เดิมที โจทก์จะตีทุนทรัพย์มาเกิน 5,000 บาท แต่ได้สละข้อเรียกร้องอื่นเสียตั้งแต่ในชั้นศาลชั้นต้นคงเหลือทุนทรัพย์พิพาทกัน 3,000 บาท คดีจึงอยู่ในข่ายต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง

ให้ยกฎีกาจำเลย

Share