คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จ. ทำสัญญาขายที่ดินในโฉนดบางส่วนทางด้านติดถนนให้จำเลยตามสัญญาซื้อขายระบุว่า จำเลยสัญญาและรับรองจะเว้นที่ดินทางขวามือเป็นถนนกว้าง 3 เมตร ยาวจดที่ดินของจำเลยให้ จ. มีสิทธิเดินและใช้รถยนต์เข้าไปถึงที่ดินส่วนที่เหลือของ จ. ได้ตลอดไป ดังนี้ ข้อสัญญาดังกล่าวเป็นข้อสัญญาก่อตั้งภาระจำยอมในทางพิพาท เมื่อ จ. ตาย โจทก์ในฐานะทายาทผู้รับมรดกที่ดินส่วนที่เหลือของ จ. ย่อมมีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยซึ่งเป็นคู่สัญญาให้ไปจดทะเบียนทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอมได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นางจูทำสัญญาซื้อขายที่ดินบางส่วนในโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๕๓๘๗ จำนวน ๕๐ ตารางวา ซึ่งอยู่ทางด้านติดถนนให้แก่จำเลย สัญญาซื้อขายข้อ ๔ ระบุว่า ผู้ซื้อได้สัญญาและรับรองที่จะเว้นที่ดินริมทางเข้าบ้านด้านถนนทางขวามือเป็นถนนกว้าง ๓ เมตร ยาวจดที่ดินของผู้ซื้อ เพื่อให้ผู้ขายมีสิทธิเดินและใช้รถยนต์เข้าไปถึงที่ดินส่วนที่เหลือของผู้ขายได้ตลอดไป แต่จำเลยได้ปลูกเรือนคร่อมทางเดินดังกล่าวทั้งยังเปิดหน้าต่างให้หน้าต่างเข้าไปในช่องทางเดิน และได้ทำประตูเหล็กเลื่อนบนทางด้านที่ติดกับถนนและใส่กุญแจในตอนกลางคืน ซึ่งยังมิได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับนางจู โจทก์ในฐานะทายาทผู้รับมรดกของนางจูและเป็นผู้รับมรดกที่ดินส่วนที่เหลือของนางจูจึงฟ้องคดีนี้ ขอให้บังคับจำเลยรื้อประตูเหล็ก รื้อเรือนที่คร่อมทาง เปลี่ยนแปลงบานหน้าต่างมิให้ล้ำเข้าไปในช่องทางเดิน รื้อสิ่งกีดขวางให้มีช่องทางเดินกว้าง ๓ เมตร และจดทะเบียนภาระจำยอมต่อเจ้าหนักงานที่ดิน ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติ ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนา
จำเลยให้การว่า ข้อตกลงตามสัญญามิใช่ข้อตกลงในลักษณะภาระจำยอม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้ปฏิบัติในเรื่องภาระจำยอม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนภาระจำยอมส่วนที่โจทก์ขอให้รื้อประตูเหล็กเลื่อน รื้อห้องนอนและสิ่งกีดขวางให้ยก
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอของโจทก์ที่ขอให้จำเลยไปจดทะเบียนภาระจำยอมเสียด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๙๙ วรรคแรก ภาระจำยอมอาจได้มาโดยทางนิติกรรมทางหนึ่งด้วย เมื่อข้อเท็จจริงตามคำฟ้องและคำให้การรับฟังได้ว่า จำเลยได้ทำสัญญากับนางจู ยอมเว้นทางพิพาทให้นางจูมีสิทธิเดินและใช้รถยนต์เข้าไปถึงที่ดินของนางจูได้ตลอดไป อันเป็นข้อสัญญาก่อตั้งภาระจำยอมในทางพิพาทเช่นนี้ เมื่อโจทก์เป็นทายาทและเป็นผู้รับมรดกในที่ดินส่วนที่เหลือของนางจู โจทก์ย่อมมีสิทธิบังคับจำเลยซึ่งเป็นคู่สัญญาให้ไปจดทะเบียนทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอมได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยไปจดทะเบียนภาระจำยอมตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share