แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คู่ความท้ากันขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงเพียงประเด็นเดียวเป็นข้อแพ้ชนะกันว่าโจทก์กล่าววาจาข่มขู่ดูหมิ่นท้าทายกระด้างกระเดื่องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาจริงหรือไม่หากเป็นความจริงโจทก์ยอมแพ้โดยไม่มีข้อความในคำท้ายกเว้นไว้ว่าจำเลยยังคงต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์ด้วยเมื่อศาลวินิจฉัยฟังว่าโจทก์กล่าววาจาข่มขู่ดูหมิ่นท้าทายผู้บังคับบัญชาจริงโจทก์จึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้าจำเลยไม่จำต้องชำระเงินจำนวนใดๆตามฟ้องแก่โจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลย เมื่อวันที่ 15 มีนาคม2537 จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิด จำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชย เท่ากับอัตราค่าจ้างสุดท้ายไม่น้อยกว่า 90 วัน คิดเป็นเงิน 78,000 บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 47 วันคิดเป็นเงิน 40,733 บาท ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีเป็นเวลา 6 วัน ซึ่งโจทก์มาทำงานทุกวันคิดเป็นเงิน 5,200 บาทค่าจ้างค้างจ่ายอีก 13,000 บาท
จำเลยให้การว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เนื่องจากโจทก์แสดงกริยาวาจาข่มขู่ ดูหมิ่นท้าทาย กระด้างกระเดื่องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งจำเลยเคยเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วอันเป็นความผิดอย่างร้ายแรง จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ส่วนเงินค่าจ้างค้างจ่ายโจทก์ไม่ไปรับเอง
ในชั้นพิจารณา คู่ความท้ากันขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงเพียงประเด็นเดียวเป็นข้อแพ้ชนะว่า โจทก์กล่าววาจาข่มขู่ดูหมิ่นท้าทายกระด้างกระเดื่อง ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาในวันที่ 5 มกราคม 2537 จริงหรือไม่ ถ้าศาลวินิจฉัยฟังว่าเป็นความจริง โจทก์ยอมแพ้ หากไม่เป็นความจริง จำเลยยอมชำระเงินตามฟ้อง ยกเว้นเงินค่าจ้างค้างจ่ายจำนวน 13,000 บาท จำเลยได้ชำระแก่โจทก์ในระหว่างพิจารณาแล้ว
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยฟังว่า โจทก์กล่าววาจาข่มขู่ ดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาในประเด็นที่ท้ากันจริง แต่พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์จำนวน 4,333 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีนั้นเห็นว่า คดีนี้คู่ความท้ากันขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงเพียงประเด็นเดียวเป็นข้อแพ้ชนะกันว่า โจทก์กล่าววาจาข่มขู่ ดูหมิ่นท้าทายกระด้างกระเดื่องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาจริงหรือไม่ หากเป็นความจริง โจทก์ยอมแพ้โดยไม่มีข้อความในคำท้ายกเว้นไว้ว่าจำเลยยังคงต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์ด้วย เมื่อศาลแรงงานกลางวินิจฉัยฟังว่าโจทก์กล่าววาจาข่มขู่ดูหมิ่นท้าทายผู้บังคับบัญชาจริง โจทก์จึงต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า จำเลยไม่จำต้องชำระเงินจำนวนใด ๆ ตามฟ้องแก่โจทก์ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์นั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง