คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1339/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้สมคบกับพวกไปหลอกลวงผู้เสียหายว่า จำเลยเป็นเจ้าของเรือ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ตกลงจ้างจำเลยขนข้าวไปกรุงเทพฯ จำเลยบรรทุกข้าวของผู้เสียหายไปแล้ว กลับพาข้าวหนี ดังนี้ ไม่ใช่เรื่องลักทรัพย์ ฉะนั้นถ้าโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ ศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษ จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ฟังข้อเท็จจริงว่านายน้อมกับจำเลยได้สมคบกันไปหลอกผู้เสียหายว่า จำเลยเป็นนางเชื้อ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ตกลงจ้างจำเลยขนข้าวจากตำบลท่าบัวมากรุงเทพฯ แล้วจำเลยกับนายน้อมก็บรรทุกข้าวตามที่ผู้เสียหายสั่งให้ขนไปแต่จำเลยกับนายน้อมกลับพาข้าวหนีไป มิได้ไปส่งตามสัญญา

ได้ความดังนี้ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่ารูปคดีเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ หาใช่ความผิดฐานลักทรัพย์ไม่ จึงพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาเห็นสอดคล้องต้องกับศาลทั้งสองว่า หาใช่เป็นคดีฐานลักทรัพย์ดังโจทก์ฟ้องไม่ จึงพิพากษายืน

Share