แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยได้สมคบกับพวกไปหลอกลวงผู้เสียหายว่า จำเลยเป็นเจ้าของเรือ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ตกลงจ้างจำเลยขนข้าวไปกรุงเทพฯ จำเลยบรรทุกข้าวของผู้เสียหายไปแล้ว กลับพาข้าวหนี ดังนี้ ไม่ใช่เรื่องลักทรัพย์ ฉะนั้นถ้าโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ ศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษ จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ฟังข้อเท็จจริงว่านายน้อมกับจำเลยได้สมคบกันไปหลอกผู้เสียหายว่า จำเลยเป็นนางเชื้อ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ตกลงจ้างจำเลยขนข้าวจากตำบลท่าบัวมากรุงเทพฯ แล้วจำเลยกับนายน้อมก็บรรทุกข้าวตามที่ผู้เสียหายสั่งให้ขนไปแต่จำเลยกับนายน้อมกลับพาข้าวหนีไป มิได้ไปส่งตามสัญญา
ได้ความดังนี้ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่ารูปคดีเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ หาใช่ความผิดฐานลักทรัพย์ไม่ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นสอดคล้องต้องกับศาลทั้งสองว่า หาใช่เป็นคดีฐานลักทรัพย์ดังโจทก์ฟ้องไม่ จึงพิพากษายืน