แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยถูกผู้ร้ายในท้องถิ่นรบกวนเสียจนประสาทหวาดระแวงไม่ปกติ ในคืนเกิดเหตุ จำเลยตื่นขึ้นกลางดึกเห็นคน ดำ ๆ ที่นอกชาน จำเลยจึงเอาปืนลูกซองที่เอาไว้ข้างที่นอนยิงไป 1 นัด ปรากฎว่าเป็นภริยาจำเลยเอง ภริยาจำเลย ถูกกระสุนปืนตายคาที่ ที่นอกชานนั่นเอง ดังนี้ เป็นเรื่องสำคัญผิดว่าเป็นผู้ร้าย ถือได้ว่าเป็นการป้องกันเกินกว่า
เหตุ./
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้ปืนลูกซองยิงภริยาจำเลยตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ
จำเลยต่อสู้ว่า ปืนลั่นถูกภริยาตายโดยบังเอิญ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙, ๕๓ ให้จำคุก ๕ ปี ลดฐานประณีตามมาตรา ๕๙ หนึ่งในสาม คงจำคุก ๓ ปี ๔ เดือน ริบเป็นของกลาง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นคนมีเคราะห์ ถูกผู้ร้ายในท้องถิ่นนั้นรบกวน จนประสาทหวาดระแวงไม่ปรกติ ในคืน วันเกิดเหตุ จำเลยนอนหลับอยู่กับภริยา เมื่อตื่นขึ้นเห็นคนดำ ๆที่นอกชาน ไม่ทันได้ไต่ถามเพราะสำคัญผิดว่าเป็นคน ร้าย จึงใช้ปืนลุกซองซึ่งบรรจุกระสุนเตรียมไว้ที่ข้างที่นอนยิงไป ๑ นัด ปรากฎว่าเป็นภริยาจำเลยเอง ภริยาจำเลยถูกกระ สุนปืนตายคาที่ที่นอกชานนั้นเอง ดังนี้เห็นว่าจำเลยขาดความรอบคอบ แต่จำเลยมิได้ตั้งใจฆ่าภริยาสำคัญผิดว่าเป็นคน ร้าย จึงเป็นการกระทำดดยป้องกันเกินกว่าเหตุ พิพากษาแก้ให้จำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ลดตามมาตรา ๕๙ เสียหนึ่งในสาม คงจำคุก ๑ ปี ปืนของกลางคืนจำเลย.