แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยทั้งสามกับพวกมิได้มีเจตนาที่จะเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกัน แต่เป็นแผนการหรือกลอุบายอย่างหนึ่งที่จำเลยทั้งสามสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อจะหลอกลวงเอาเงินจากโจทก์ร่วม ทั้งโจทก์ร่วมมิได้มีเจตนาที่จะไปร่วมเล่นการพนันกับจำเลยทั้งสามมาแต่ต้น การที่โจทก์ร่วมมอบเงินให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกเพื่อเข้าหุ้นเล่นการพนันดังกล่าวเป็นการตกหลุมพรางที่วางกับดักเอาไว้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมเข้าร่วมเล่นการพนันกับจำเลยทั้งสามโดยไม่ได้รับอนุญาต อันจะเป็นการร่วมกับจำเลยทั้งสามกระทำความผิดฐานฉ้อโกง โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยในความผิดฐานฉ้อโกงเงินของโจทก์ร่วม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 8 มิถุนายน 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 14 มิถุนายน 2548 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสามกับพวกอีกหนึ่งคนซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันวางแผนหลอกลวงนายนพรัตน์ผู้เสียหาย เป็นขั้นเป็นตอนและแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจำเลยทั้งสามทำทีมาติดต่อขอซื้อเตาแก๊สจากผู้เสียหาย โดยอ้างว่าพวกของจำเลยทั้งสามเป็นเถ้าแก่จะซื้อเตาแก๊สของผู้เสียหายและพาผู้เสียหายไปตกลงซื้อขายเตาแก๊สกันที่ห้องพักภายในโรงแรมไดมอนด์ แล้วจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกร่วมกันใช้กลอุบายชักชวนผู้เสียหายให้นำเงินมาเข้าหุ้นกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกให้ครบ 6,000,000 บาท เพื่อใช้เล่นการพนัน โดยอ้างว่าสามารถร่วมกันเล่นโกงเอาชนะจำเลยที่ 1 ซึ่งอ้างว่าเป็นเถ้าแก่อีกคนหนึ่งอันเป็นความเท็จความจริงแล้วบุคคลซึ่งจำเลยที่ 2 และที่ 3 อ้างว่าเป็นเถ้าแก่ไม่มีความประสงค์จะซื้อเตาแก๊สของผู้เสียหายแต่อย่างใด การตกลงซื้อขายเตาแก๊สกับผู้เสียหายเป็นเพียงกลอุบายให้ผู้เสียหายไปกับจำเลยที่ 2 และไปพบจำเลยที่ 3 กับพวกแล้วใช้กลอุบายชักชวนให้เล่นการพนันโกงเพื่อเอาชนะจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกมิได้มีเจตนาจะเล่นการพนันเพื่อโกงเอาชนะจำเลยที่ 1 จริง แต่จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกหลอกลวงผู้เสียหายก็เพื่อให้ผู้เสียหายนำเงินมาเข้าหุ้นเล่นการพนันและจำเลยทั้งสามกับพวกจะได้สมคบกันเล่นโกงผู้เสียหายเพื่อให้แพ้พนันและจากการหลอกลวงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงิน 1,100,000 บาท ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกเพื่อเข้าหุ้นเล่นการพนันดังกล่าว แล้วจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกสมคบกันเล่นพนันโดยแกล้งเล่นแพ้พนัน ทำให้จำเลยทั้งสามกับพวกได้เงิน 1,100,000 บาท ของผู้เสียหายไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันคืนเงิน 1,100,000 บาท แก่ผู้เสียหาย และนับโทษจำเลยที่ 3 ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4628/2548 ของศาลจังหวัดระนอง
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ และจำเลยที่ 3 รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ระหว่างพิจารณา นายนพรัตน์ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
โจทก์ร่วมและจำเลยที่ 1 ตกลงกันได้ โดยจำเลยที่ 1 จะผ่อนชำระเงินคืนให้โจกท์ร่วม ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีชั่วคราวสำหรับจำเลยที่ 1
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 3 ปี จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน นับโทษจำเลยที่ 3 ต่อจากโทษจำคุกจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4628/2548 ของศาลจังหวัดระนอง ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ร่วมกันคืนเงินจำนวน 1,100,000 บาท แก่โจทก์ร่วม
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 โจทก์ร่วมยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์จำเลยที่ 2
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3
โจทก์ฎีกา
ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ร่วมยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์จำเลยที่ 2
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยมีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 หรือไม่ คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงฟังเป็นยุติตามคำฟ้องของโจทก์ว่า จำเลยทั้งสามกับพวกอีกหนึ่งคนร่วมกันวางแผนหลอกลวงโจทก์ร่วมเป็นขั้นเป็นตอนและแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจำเลยทั้งสามทำทีมาติดต่อขอซื้อแก๊สจากโจทก์ร่วมอ้างว่าพวกของจำเลยทั้งสามเป็นเถ้าแก่จะซื้อเตาแก๊สของโจทก์ร่วม และพวกโจทก์ร่วมไปตกลงซื้อขายเตาแก๊สกันที่ห้องพักภายในโรงแรมไดมอนด์ แล้วจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกร่วมกันใช้กลอุบายชักชวนโจทก์ร่วมให้นำเงินมาเข้าหุ้นกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกให้ครบ 6,000,000 บาท เพื่อใช้เล่นการพนัน โดยอ้างว่าสามารถร่วมกันเล่นโกงชนะจำเลยที่ 1 ซึ่งอ้างว่าเป็นถ้าแก่อีกคนหนึ่งอันเป็นความเท็จ ความจริงแล้วบุคคลที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 อ้างว่าเป็นเถ้าแก่ไม่มีความประสงค์จะซื้อเตาแก๊สของโจทก์ร่วมแต่อย่างใด การตกลงซื้อขายเตาแก๊สของโจทก์ร่วมแต่อย่างใด การตกลงซื้อขายเตาแก๊สกับโจทก์ร่วมเป็นเพียงกลอุบายให้โจทก์ร่วมไปกับจำเลยที่ 2 และไปพบจำเลยที่ 3 กับพวกแล้วใช้กลอุบายชักชวนให้เล่นการพนันโกงเพื่อเอาชนะจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกมิได้มีเจตนาจะเล่นการพนันเพื่อโกงเอาชนะจำเลยที่ 1 จริง แต่จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกหลอกลวงโจทก์ร่วมก็เพื่อให้โจทก์ร่วมนำเงินมาเข้าหุ้นเล่นการพนัน และจำเลยทั้งสามกับพวกจะได้สมคบกันเล่นโกงโจทก์ร่วมเพื่อให้แพ้พนัน และจากการหลอกลวงดังกล่าวทำให้โจทก์ร่วมหลงเชื่อมอบเงิน 1,100,000 บาท ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกเพื่อเข้าหุ้นส่วนการพนันดังกล่าว แล้วจำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกสมคบกันเล่นการพนันโดยแกล้งเล่นแพ้พนัน ทำให้จำเลยทั้งสามกับพวกได้เงิน 1,100,000 บาท ของโจทก์ร่วมไป เห็นว่า จำเลยทั้งสามกับพวกมิได้มีเจตนาที่จะเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันแต่อย่างใด แต่การเล่นการพนันเป็นแผนการหรือกลอุบายอย่างหนึ่งที่จำเลยทั้งสามสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อจะหลอกลวงเอาเงินจากโจทก์ร่วม ทั้งโจทก์ร่วมก็มิได้มีเจตนาที่จะไปร่วมเล่นการพนันกับจำเลยทั้งสามมาแต่ต้น การที่โจทก์ร่วมมอบเงินให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 กับพวกเพื่อเข้าหุ้นเล่นการพนันดังกล่าวเป็นการตกหลุมพรางที่จำเลยทั้งสามกับพวกวางกับดักเอาไว้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ร่วมเข้าร่วมเล่นการพนันกับจำเลยทั้งสามโดยไม่ได้รับอนุญาต อันจะเป็นการร่วมกับจำเลยทั้งสามกระทำความผิด โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยมีอำนาจร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น แต่ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา โจทก์ร่วมยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์จำเลยที่ 2 สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจำเลยที่ 2 ของโจทก์และโจทก์ร่วมย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (2)
อนึ่ง จำเลยที่ 1 ได้ชำระเงินคืนให้โจทก์ร่วม 200,000 บาท แล้ว จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดใช้เงินคืนให้โจทก์ร่วมในส่วนนี้อีก”
พิพากษากลับว่า จำเลยที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 จำคุก 3 ปี จำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน นับโทษจำเลยที่ 3 ต่อจากโทษจำคุกจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 4628/2548 ของศาลจังหวัดระนอง ให้จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดคืนเงิน 900,000 บาท แก่โจทก์ร่วม จำหน่ายคดีในส่วนของจำเลยที่ 2 ออกจากสารบบความ