แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
คำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้เนื่องจากผู้ร้องไม่ต้องรับผิดชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ตามตาราง 1 ข้อ (1)(ก) ท้าย ป.วิ.พ. ประกอบด้วย พ.ร.บ.ล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 179 วรรคท้าย ผู้ร้องจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ผู้ร้องนำค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ที่ยังขาดอยู่มาชำระภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด แต่ผู้ร้องไม่ชำระภายในกำหนด เป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จำหน่ายคดี.
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือยืนยันหนี้ให้ผู้ร้องชำระหนี้จำนวน 840,379 บาท พร้อมดอกเบี้ย ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เดิมบริษัทสุพรรณบุรีทำไม้ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานป่าไม้ได้ตกลงให้ผู้ร้องเป็นผู้ทำไม้ในสัมปทาน โดยผู้ร้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น และบริษัทสุพรรณบุรีทำไม้ จำกัดตกลงขายไม้ที่ผู้ร้องทำให้แก่ผู้ร้อง ต่อมาผู้ร้องได้ทำสัญญาขายไม้ดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 1 โดยมีข้อกำหนดให้จำเลยที่ 1ออกเงินทดรองจ่ายให้แก่ผู้ร้องเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการนำไม้ออกจากป่ามาส่งมอบขายแก่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 จะต้องชำระค่าภาคหลวง ค่าปลูกป่า ค่าสิทธิการทำไม้ ค่าซื้อไม้ล่วงหน้าค่าตอไม้ และเงินอื่นใดที่ผู้ร้องจะต้องจ่ายตามที่บริษัทสุพรรณบุรีทำไม้ จำกัด เรียกร้อง และผู้ร้องได้ปฏิบัติตามสัญญาโดยนำไม้ออกจากป่ามารวมหมอนไว้ แต่จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระเงินค่าปลูกป่าที่ต้องเสียเพิ่มภายในกำหนดเวลา เป็นเหตุให้บริษัทสุพรรณบุรีทำไม้จำกัด บอกเลิกสัญญาแก่ผู้ร้อง ซึ่งเป็นความผิดของจำเลยที่ 1 เองสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1 ขาดอายุความแล้ว ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และจำหน่ายชื่อของผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คัดค้านว่า จำเลยที่ 1 ได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับผู้ร้องครบถ้วนแล้วแต่ผู้ร้องเป็นฝ่ายผิดสัญญากับบริษัทสุพรรณบุรีทำไม้ จำกัด บริษัทสุพรรณบุรีทำไม้ จำกัด จึงบอกเลิกสัญญาแก่ผู้ร้อง ทำให้ผู้ร้องไม่สามารถส่งมอบไม้ให้แก่จำเลยที่ 1 ผู้ร้องจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา สิทธิเรียกร้องของจำเลยที่ 1ยังไม่ขาดอายุความ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ และส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้ศาลชั้นต้นเรียกผู้ร้องนำค่าขึ้นศาลอย่างคดีมีทุนทรัพย์ที่ยังขาดอยู่มาชำระให้ครบภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ศาลชั้นต้นสั่งให้ผู้ร้องนำค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่มาชำระภายใน 15 วันผู้ร้องไม่นำมาชำระภายในกำหนด ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นการทิ้งอุทธรณ์ มีคำสั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความของศาลอุทธรณ์
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…คำร้องของผู้ร้องที่ขอให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายชื่อผู้ร้องออกจากบัญชีลูกหนี้เนื่องจากผู้ร้องไม่ต้องรับผิดชำระหนี้ให้แก่จำเลยที่ 1 ก็คือให้ศาลวินิจฉัยว่า ผู้ร้องไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระตามจำนวนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งยืนยันไป หากศาลมีคำสั่งให้ผู้ร้องชนะคดี ทุกข์ของผู้ร้องย่อมปลดเปลื้องไปตามจำนวนเงินที่ผู้ร้องไม่ต้องชำระหนี้ คำร้องของผู้ร้องจึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ตามตาราง 1 ข้อ (1) (ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 179วรรคท้าย ผู้ร้องจึงต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์อย่างคดีมีทุนทรัพย์ เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ผู้ร้องนำค่าขึ้นศาลที่ยังขาดอยู่มาชำระ แต่ผู้ร้องเพิกเฉย จึงเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว ฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.