คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2550

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นพร้อมค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว โจทก์ย่อมไม่ได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยยื่นอุทธรณ์ จึงไม่มีเหตุที่จะให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 133,125 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 100,000 บาท จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 133,125 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 100,000 บาท นับแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2543 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 2,000 บาท
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ อ้างว่าจำเลยไม่เคยได้รับหมายเรียกสำเนาคำฟ้องและคำบังคับ จำเลยเพิ่งทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้เมื่อโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ของจำเลย จำเลยไม่จงใจขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาทั้งคดีจำเลยก็มีโอกาสชนะโจทก์ได้ ขอให้พิจารณาคดีใหม่
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย ให้คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ทั้งหมดแก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ นอกจากนี้ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยชอบหรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความจากสำนวนว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2543 ต่อมาวันที่ 30 พฤศจิกายน 2543 จำเลยได้ชำระหนี้ซึ่งต้องชำระตามคำพิพากษาพร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนให้แก่โจทก์เป็นเงิน 142,561 บาท ครั้นวันที่ 15 มีนาคม 2544 เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งเรื่องการถอนการบังคับคดีไปยังศาลชั้นต้น โดยอ้างว่าโจทก์สามารถตกลงชำระหนี้ภายนอกกับจำเลยได้ จึงไม่ติดใจที่จะบังคับคดีแก่จำเลยอีกต่อไป ศาลชั้นต้นเกษียณสั่งรับทราบเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2544 เห็นว่า เมื่อจำเลยชำระหนี้ที่ต้องชำระตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นพร้อมค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว โจทก์ย่อมไม่ได้รับความเสียหายจากการยื่นอุทธรณ์ของจำเลย จึงไม่มีเหตุที่จะให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยโดยอ้างว่าจำเลยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้ให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำสั่งมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์นั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาแล้วมีคำพิพากษารวมทั้งสั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share