แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาที่ผู้อุทธรณ์นำมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 229 เป็นเงินที่วางเพื่อเป็นประกันว่าหากในที่สุดศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ผู้อุทธรณ์ต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมแทนคู่ความที่ชนะคดีแล้ว ชนะคดีจะมีสิทธิได้รับค่าธรรมเนียมที่ได้ออกใช้ก่อนจากเงินที่ผู้อุทธรณ์วางไว้ได้โดยผู้ชนะคดีไม่จำต้องดำเนินการบังคับคดี เมื่อศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้โจทก์เป็นผู้ชนะคดีและให้จำเลยผู้อุทธรณ์รับผิดในค่าธรรมเนียมแล้วโจทก์มีสิทธิขอรับเงินค่าธรรมเนียมที่จำเลยวางไว้ต่อศาลเพื่อชำระค่าธรรมเนียมที่จำเลยต้องใช้ให้แก่ตนได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาจะซื้อจะขายโดยไม่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ ๖๕๑๐๗ ตำบลท่าทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลกแก่โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยไถ่ถอนจำนองและ โอนที่ดินแปลงดังกล่าวแก่โจทก์พร้อมกับรับค่าที่ดินที่ค้างอยู่อีก ๓๐๕,๖๐๐ บาท จากโจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามขอให้ถือตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยไถ่ถอนจำนอง จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ ๖๕๑๐๗ ตำบลท่าทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก แก่โจทก์พร้อมทั้งรับเงินค่าที่ดินอีก ๓๐๕,๖๐๐ บาท จากโจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย หากจำเลยไม่สามารถไถ่ถอนจำนองและโอนกรรมสิทธิ์ได้ ให้คืนเงิน ๔๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับค่าเสียหายอีก ๕๐,๐๐๐ บาท ให้จำเลยใช้ ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๑๐,๐๐๐ บาท จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษายืนคดีถึงที่สุด
ต่อมา วันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๔๒ โจทก์ยื่นคำแถลงขอรับเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจำเลยนำมาวางศาลไว้ใช้แทน แก่โจทก์ตามคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำแถลง
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๓ ทวิ
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์ในฐานะผู้ชนะคดีจะขอรับเงิน ค่าธรรมเนียมซึ่งจำเลยในฐานะผู้อุทธรณ์ได้นำมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ได้หรือไม่ เห็นว่า เงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาที่ผู้อุทธรณ์นำมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๙ นั้น เป็นเงินที่วางเพื่อเป็นประกันว่าหากในที่สุดศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้จำเลย ผู้อุทธรณ์ต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมแทนคู่ความที่ชนะคดีแล้ว ผู้ชนะคดีจะมีสิทธิได้รับค่าธรรมเนียมที่ได้ออกใช้ก่อนจากเงินที่จำเลยผู้อุทธรณ์วางไว้ได้ โดยผู้ชนะคดีไม่จำต้องดำเนินการบังคับคดี เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้โจทก์เป็นผู้ชนะคดีและให้จำเลยรับผิดในค่าธรรมเนียมแล้ว จำเลยย่อมมี ความรับผิดที่จะต้องชำระค่าธรรมเนียมให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะขอรับเงินค่าธรรมเนียมที่จำเลยผู้อุทธรณ์วางไว้ต่อศาลเพื่อชำระหนี้ค่าธรรมเนียมที่จำเลยต้องใช้ให้แก่ตนได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำแถลง ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้จ่ายค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งที่จำเลยวางไว้ต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๙ ให้แก่โจทก์ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ
(พลประสิทธิ์ ฤทธิ์รักษา – เรืองฤทธิ์ ศรีวรรธนะ – วิชัย วิวิตเสวี)