คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญากู้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วน หากผู้เขียนสัญญาได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์ต่อหน้าผู้ให้กู้ และผู้กู้ โดยไม่มีการทักท้วง ก็ใช้เป็นพยานหลักฐานได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ 22 เมษายน 2496 จำเลยกู้ยืมเงินโจทก์ไป 8,650 บาท ดอกเบี้ยชั่งละ 1 บาท ต่อเดือนจำเลยเคยชำระดอกเบี้ย 2,500 บาท โจทก์เตือนจำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ย จำเลยเพิกเฉย จึงฟ้องขอศาลบังคับ

จำเลยให้การว่า ได้ทำสัญญากู้โจทก์ไปเพียง 8,000 บาท รุ่งขึ้นชำระคืน 5,300 บาท คงค้างอีก 2,700 บาทเมื่อเดือนยี่ พ.ศ. 2497 รับข้าวเปลือกเป็นการชำระหนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไปตามฟ้อง จึงพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงยืนตามศาลอุทธรณ์ และวินิจฉัยข้อกฎหมายด้วยว่า การที่ผู้กู้ยืมไม่ได้เป็นผู้ขีดฆ่าแสตมป์ตามกฎหมาย แต่ผู้เขียนกลับเป็นผู้ขีดฆ่า ย่อมทำให้สัญญาเป็นโมฆะนั้น ข้อนี้มีบทกำหนดผ่อนผันหน้าที่ของผู้ที่ต้องเสียอากรและผู้ที่ต้องขีดฆ่าแสตมป์ไว้ตามประมวลรัษฎากรมาตรา 107 ซึ่งจะตกลงกันเป็นอย่างอื่นได้ด้วยฉะนั้น การที่ผู้เขียนสัญญาขีดฆ่าแสตมป์ต่อหน้าโจทก์ จำเลย โดยไม่มีการทักท้วงจากฝ่ายใด ก็ถือว่าโจทก์จำเลยตกลงให้ทำเช่นนั้นได้

Share