แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อคัดค้านคำชี้ขาดตัดสินของศาลในคำขอพิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 กล่าวแต่เพียงว่า ถ้าจำเลยทั้งสองทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องคดีก็จะต้องแต่งตั้ง ทนายความเพื่อว่าต่างแก้ต่างคดีแทนเพราะหลักฐาน การแสดงภาระหนี้สินของจำเลยทั้งสองที่มีอยู่ กับโจทก์ยังมีข้อโต้เถียงในประเด็นสำคัญ เช่นการ คิดดอกเบี้ยและการปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา ซึ่งจำเลยทั้งสองเคยขอตรวจสอบถึงภาระหนี้สิน แต่โจทก์ ไม่ยอมให้แผ่นบัญชีเงินกู้และชี้แจงการคำนวณดอกเบี้ยให้จำเลยทั้งสองทราบ ข้อความดังกล่าวไม่ได้ คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นว่าไม่ชอบด้วย กฎหมายหรือไม่ถูกต้องอย่างไรและไม่ได้แสดงเหตุผล ว่าหากมีการอนุญาตให้พิจารณาใหม่ จำเลยทั้งสองจะ ชนะคดีได้อย่างไรคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ชำระหนี้แก่โจทก์จำเลยทั้งสี่ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ชำระหนี้แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นคำร้องว่า จำเลยทั้งสองไม่ทราบว่าถูกฟ้องมาก่อน หากทราบจะต้องเข้าสู้คดี เพราะหนี้สินที่จำเลยทั้งสองมีต่อโจทก์ยังมีข้อโต้เถียงในประเด็นสำคัญ เช่น การคิดดอกเบี้ยและการปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองมิได้มีภูมิลำเนาตามที่โจทก์ฟ้องเพราะจำเลยทั้งสองมิได้อาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว เพียงแต่มีข้ออยู่เพื่อเป็นหลักฐานทางทะเบียนเท่านั้น ซึ่งโจทก์ก็ทราบดีโดยผู้จัดการโจทก์สาขาเทเวศร์ ก็ติดต่อกับจำเลยทั้งสองที่บ้านเลขที่ 406/9 ถนนพระรามที่ 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นประจำ ขอให้มีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีว่า คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยทั้งสองชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคสอง บัญญัติว่า “คำขอเช่นว่ามานี้ให้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความได้ขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล และในกรณีที่ยื่นคำขอล่าช้าเหตุแห่งการที่ล่าช้านั้นด้วย” ดังนั้นคำขอให้พิจารณาใหม่ต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ 2 ประการคือ ต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความฝ่ายนั้นได้ขาดนัดประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งต้องเป็นข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล และหากยื่นคำขอล่าช้าต้องกล่าวถึงเหตุที่ล่าช้านั้นด้วย คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 กล่าวถึงเหตุที่จำเลยทั้งสองขาดนัดว่าเนื่องจากจำเลยทั้งสองไม่ทราบมาก่อนว่าถูกฟ้องคดีเพราะจำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้มีภูมิลำเนาตามที่โจทก์ฟ้อง จำเลยทั้งสองมิได้อาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว เพียงแต่มีชื่ออยู่เพื่อเป็นหลักฐานทางทะเบียนเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ทางโจทก์ก็ทราบดีโดยเฉพาะผู้จัดการโจทก์ สาขาเทเวศร์ก็ติดต่อกับจำเลยทั้งสองที่บ้านเลขที่ 406/9 ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรีเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นับว่าคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่จำเลยทั้งสองได้ขาดนัดแล้ว ส่วนข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 และที่ 2กล่าวแต่เพียงว่าถ้าจำเลยทั้งสองทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องคดีก็จะต้องแต่งตั้งทนายความเพื่อว่าต่างแก้ต่างคดดีแทนเพราะหลักฐานการแสดงภาระหนี้สินของจำเลยทั้งสองที่มีอยู่กับโจทก์ยังมีข้อโต้เถียงในประเด็นสำคัญอาทิการคิดดอกเบี้ยและการปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาระหว่างโจทก์และจำเลยทั้งสองที่มีต่อกัน ซึ่งจำเลยทั้งสองเคยขอตรวจสอบถึงภาระหนี้สินแต่โจทก์ไม่ยอมให้แผ่นบัญชีเงินกู้และชี้แจงการคำนวณดอกเบี้ยให้จำเลยทั้งสองทราบข้อความดังกล่าวไม่ได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ถูกต้องอย่างไรและไม่ได้แสดงเหตุผลให้ปรากฏว่าหากมีการอนุญาตให้พิจารณาใหม่จำเลยทั้งสองจะชนะคดีได้อย่างไร คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสอง
พิพากษายืน