คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1309/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยติดต่อค้าขายกันหลายปี โดยโจทก์รับซื้อกระป๋องบรรจุน้ำมันหล่อลื่น จากจำเลยมีข้อตกลงว่า ถ้ากระป๋องชำรุดรั่วใช้การไม่ได้จำเลยยอมรับคืนและยอมใช้ค่ากระป๋องในราคาที่จำเลยขายให้โจทก์ โจทก์ได้ส่งกระป๋องที่ชำรุดจำนวนหนึ่งคืนจำเลย แต่จำเลยไม่ใช้ราคา โจทก์จึงฟ้องคดีนี้ ดังนี้ เห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่จำเลยขายให้โจทก์ชำรุดบกพร่องโดยตรง ตกอยู่ภายใต้อายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 474 ไม่ใช่เรื่องโจทก์ฟ้องเรียกราคาค่าขายกระป๋องชำรุดอันจะใช้อายุความ 2 ปี ตามมาตรา 165 (1)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับซื้อกระป๋องบรรจุน้ำมันหล่อลื่นจากจำเลยมาเป็นเวลาหลายปี โดยมีข้อตกลงกันว่าถ้ากระป๋องที่จำเลยส่งมอบชำรุดรั่วใช้การไม่ได้จำเลยยอมรับคืนและใช้ค่ากระป๋องในราคาที่จำเลยขายให้โจทก์ เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๑๙ จำเลยได้รับกระป๋องชำรุดคืนจากโจทก์ ๕,๒๖๘ ใบ ราคา ๑๒,๖๗๔.๑๐ บาท แต่จำเลยไม่ใช้ราคาขอให้บังคับจำเลยชำระราคากระป๋องจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี
จำเลยให้การปฏิเสธว่ายังไม่ได้รับกระป๋องชำรุดตามฟ้อง และว่าโจทก์ยังค้างชำระค่ากระป๋องจำเลยอยู่ ๑๑,๘๐๔.๒๙ บาท ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๗๔ ขอให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่จำเลยพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี
โจทก์ให้การปฏิเสธความรับผิดตามฟ้องแย้ง
หลังจากชี้สองสถานแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และขอถอนฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยถอนฟ้องแย้งและสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่าย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวว่า โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดเนื่องจากความชำรุดบกพร่องของสินค้า อายุความต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๗๔ ซึ่งกำหนดไว้ ๑ ปี จำเลยได้รับกระป๋องชำรุดไปจากโจทก์เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๑๙ โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๒๐ เกิน ๑ ปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ไม่จำเป็นต้องดำเนินการพิจารณาและวินิจฉัยข้ออื่นต่อไป พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ว่า จะใช้อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๗๔ ปรับกับคดีนี้ไม่ได้ กรณีต้องปรับด้วยมาตรา ๑๖๕ (๑) ซึ่งมีอายุความ ๒ ปี คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า กรณีเป็นเรื่องผู้ซื้อฟ้องผู้ขายให้รับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินที่ซื้อขาย ต้องใช้อายุความ ๑ ปี ตามมาตรา ๔๗๔ คดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาในชั้นฎีกาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่าโจทก์จำเลยมีข้อตกลงกันว่าหากกระป๋องที่จำเลยขายให้โจทก์ชำรุดใช้การไม่ได้ จำเลยยอมรับคืนและยอมใช้ราคา จึงนำอายุความ ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๗๔ ซึ่งเป็นกรณีผู้ซื้อผู้ขายมิได้มีข้อตกลงกันมาใช้บังคับมิได้ และกรณีดังกล่าวแสดงว่าโจทก์ขายกระป๋องชำรุดให้จำเลย สิทธิเรียกร้องของโจทก์มีอายุความ ๒ ปี ตามมาตรา ๑๖๕ (๑) คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิเคราะห์แล้วคำฟ้องของโจทก์แสดงชัดว่า หากกระป๋องที่จำเลยขายให้โจทก์ชำรุดใช้การไม่ได้ จำเลยยอมรับคืนและยอมใช้ค่ากระป๋องในราคาที่จำเลยขายให้โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ยอมใช้ค่ากระป๋องที่โจทก์ส่งคืน โจทก์จึงฟ้องคดีนี้ เห็นได้ว่าโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่จำเลยขายให้โจทก์ชำรุดบกพร่องโดยตรง หาใช่โจทก์ฟ้องเรียกราคาค่าขายกระป๋องชำรุดไม่ จึงนำอายุความ ๒ ปี ตามมาตรา ๑๖๕ (๑) มาปรับกับคดีนี้มิได้ ข้อตกลงรับคืนกระป๋องชำรุดโดยจำเลยยอมใช้ค่ากระป๋องดังโจทก์อ้าง ไม่เป็นเหตุยกเว้นมิให้นำเรื่องอายุความตามมาตรา ๔๗๔ มาใช้บังคับ โจทก์ฟ้องคดีนี้พ้นเวลา ๑ ปี นับแต่เวลาที่ได้พบเห็นความชำรุดบกพร่อง คดีโจทก์จึงขาดอายุความดังที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมา
พิพากษายืน.

Share