แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเมาสุรา ถือมีดดายหญ้ามาท้าทายจะทำร้ายผู้เสียหายซึ่งยืนอยู่ห่าง 1 วา คนละฟากรั้วสวน ต่อมา ย. ถือปืนสั้นมายืนอยู่ข้างจำเลย และบอกให้ผู้เสียหายกลับไปนอน พอผู้เสียหายหันตัวจะกลับบ้าน จำเลยพูดว่ายิงมันเลย แล้ว ย. ก็ใช้ปืนยิงผู้เสียหาย 4 นัด ผู้เสียหายถูกกระสุนปืนล้มลง แล้วจำเลยยังพูดต่อไปอีกว่า ตายแล้วยัง มาสู้กันอีก พฤติการณ์ของจำเลยเช่นนี้ถือได้ว่า จำเลยได้ร่วมในการยิงผู้เสียหายกับ ย. ด้วย
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนีอีก 1 คน ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าให้ตาย กระสุนถูกผู้เสียหายหลายแห่งได้รับอันตรายสาหัส จำเลยกับพวกได้กระทำผิดไปตลอดแล้ว แต่หากด้วยกระสุนปืนไม่ถูกที่สำคัญ ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายสมเจตนาของจำเลยกับพวก ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า พยานโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยได้ร่วมกระทำผิดกับผู้ที่ยิงผู้เสียหาย พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดฐานพยายามฆ่าคน พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80, 86ให้จำคุกจำเลย 6 ปี 8 เดือน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเมาสุราถือมีดดายหญ้ามายืนท้าทายจะทำร้ายผู้เสียหายซึ่งอยู่คนละฟากรั้วสวนห่างกัน 1 วา ต่อมานายอยู่วิ่งมาจากบ้านจำเลย มายืนอยู่ข้างจำเลย และพูดกับผู้เสียหายว่าผู้เสียหายจำเสียงนายอยู่ได้หรือไม่ ถ้าจำได้ก็ให้กลับไปนอน ผู้เสียหายฉายไฟดูเห็นนายอยู่ถือปืนสั้นยืนอยู่ห่าง 1 วา จึงดับไฟฉายจะกลับบ้าน พอหันตัว จำเลยพูดว่า ยิงมันเลยแล้วมีเสียงปืนดัง 4 นัดติด ๆ กัน จากทางที่นายอยู่ยืน แล้วนายอยู่วิ่งหนีไป ผู้เสียหายถูกกระสุนปืนได้รับบาดแผลหลายแห่ง ศาลฎีกาเห็นว่า ปืนดังขึ้นหลังจากที่ผู้เสียหายดับไฟฉายที่ฉายดูนายอยู่ตรงนั้น นอกจากนายอยู่กับจำเลยแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดอีก จำเลยมีแต่มีดไม่มีปืน จึงฟังได้ว่านายอยู่เป็นผู้ยิงผู้เสียหาย ปัญหาที่ว่า การที่จำเลยพูดว่ายิงมันเลย แล้วนายอยู่ก็ยิงผู้เสียหาย ดังนี้ จะถือได้หรือไม่ว่า จำเลยได้ร่วมในการยิงผู้เสียหายกับนายอยู่ด้วย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในตอน 18.00 นาฬิกา ก่อนเกิดเหตุจำเลยกับนายอยู่ได้ร่วมวงดื่มสุรากันที่บ้านนายสุข และจำเลยกับนายอยู่ยังได้มาดื่มสุรากันต่อที่บ้านจำเลยอีก ต่อมาจำเลยถือมีดไปร้องท้าทายจะทำร้ายผู้เสียหายที่ข้างรั้ว เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายผู้เสียหายอยู่แล้ว นายอยู่พวกของจำเลยถือปืนวิ่งตามไปยืนอยู่กับจำเลย จำเลยร้องบอกให้ยิง แสดงอยู่ในตัวว่าจะร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายมาก่อน และจำเลยทราบดีว่านายอยู่มีปืนด้วย จึงร้องขึ้นดังนั้น เมื่อนายอยู่ยิงผู้เสียหายแล้ว จำเลยยังพูดต่อไปว่าตายแล้วยัง มาสู้กันอีก เป็นการสำทับให้เห็นเจตนาของจำเลยดังกล่าวข้างต้น จึงถือได้ว่าจำเลยได้ร่วมในการยิงผู้เสียหายกับนายอยู่ด้วย
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80, 83ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 10 ปี