คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1297/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำขอของจำเลยกล่าวว่า เพราะโจทก์ส่งหมายเรียกหมายนัดตลอดจนคำบังคับ ณ ที่ดินซึ่งมิใช่ภูมิลำเนาของจำเลย เป็นเหตุให้จำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีมาแต่ต้น ถือได้ว่าคำขอของจำเลยได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้าอันเนื่องมาจากพฤติการณ์นอกเหนือ ซึ่งจำเลยไม่อาจรู้ได้ ทำให้จำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ภายใน 15 วันนับแต่วันส่งคำบังคับให้จำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้ค่าซื้อหัวมันสำปะหลัง จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระหนี้และดอกเบี้ยแก่โจทก์

ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์นำส่งคำบังคับแก่จำเลย ณ ภูมิลำเนาตามฟ้อง จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลย คือ ที่ดิน 1 แปลง

จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ยื่นคำขอและเพิ่มเติมคำขอให้พิจารณาคดีใหม่กล่าวว่าจำเลยที่ 1 มิได้ชื่อกุ่ยตามฟ้อง จำเลยที่ 1 มีภูมิลำเนาอยู่ตำบลลาดยาว อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร ส่วนจำเลยที่ 2 มีภูมิลำเนาอยู่ตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จำเลยจึงไม่ทราบหมายเรียกของศาล และขาดนัดพิจารณา ไม่ทราบเรื่องที่ศาลสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียว และพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยมาตรวจที่ดินของจำเลยที่ตำบลพลา อำเภอเมืองจังหวัดระยอง จึงทราบว่าถูกศาลยึดขายทอดตลาดจำเลยไปขอดูที่ศาลจังหวัดระยองจึงได้รับหนังสือแจ้งการยึด โจทก์จะเคยขายหัวมันให้จำเลยหรือไม่จำเลยไม่รับรอง แต่การซื้อขายทุกคราวจำเลยชำระเงินสดทั้งสิ้น ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม การซื้อขายรายนี้มีราคาเกิน 500 บาท แต่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้อง

โจทก์แถลงคัดค้านว่าคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยยื่นภายหลัง 15 วัน นับแต่วันที่ถือว่าจำเลยได้รับคำบังคับ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม การซื้อขายมีการชำระหนี้บางส่วน คำขอของจำเลยขาดการคัดค้านคำชี้ขาดของศาลว่ามีเหตุอะไรบ้างที่จำเลยอาจชนะคดีโจทก์ได้

ศาลชั้นต้นสั่งงดไต่สวน แล้ววินิจฉัยว่าจำเลยยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่เมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่กฎหมายถือว่าจำเลยได้รับคำบังคับ และคำขอของจำเลยไม่ปรากฏเหตุแห่งความล่าช้าซึ่งเป็นพฤติการณ์พิเศษนอกเหนือไม่อาจบังคับได้ คำขอของจำเลยจึงไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208ให้ยกคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลย

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า คำขอของจำเลยได้แสดงเหตุแห่งความล่าช้า เพราะพฤติการณ์นอกเหนือซึ่งไม่อาจบังคับได้ไว้แล้ว และคำขอของจำเลยก็ได้แสดงข้อคัดค้านคำชี้ขาดตัดสินของศาลไว้ ถือได้ว่าคำขอของจำเลยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลย แล้วมีคำสั่งตามรูปคดี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คำขอของจำเลยได้กล่าวไว้ชัดแจ้งแล้วว่า เพราะโจทก์ส่งหมายเรียกหมายนัดตลอดจนคำบังคับ ณ ที่ดินซึ่งไม่ใช่ภูมิลำเนาของจำเลยเป็นเหตุให้จำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้องไม่มีโอกาสต่อสู้คดีมาแต่ต้น ถือได้ว่าคำขอของจำเลยได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้าอันเนื่องมาจากพฤติการณ์นอกเหนือซึ่งจำเลยไม่อาจรู้ได้ ทำให้จำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ภายใน 15 วัน นับแต่วันส่งคำบังคับให้จำเลยได้ จนกระทั่งจำเลยไปตรวจที่ดินของจำเลยจึงทราบว่าที่ดินถูกศาลยึดและจำเลยถูกฟ้อง จำเลยก็ได้ยื่นคำขอให้พิจารณาคดีภายในกำหนด 15 วัน นับแต่พฤติการณ์ดังกล่าวนั้นสิ้นสุดลง นอกจากนี้คำขอของจำเลยยังได้กล่าวโดยละเอียดซึ่งข้อคัดค้านคำชี้ขาดตัดสินของศาลเพื่อแสดงว่าถ้าได้มีการพิจารณาใหม่คดีของจำเลยอาจชนะได้ จึงถือได้ว่าคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แล้ว

พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share