คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1294/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินโฉนดที่ 4052,4053 ศาลฎีกาเคยพิพากษาไว้แล้วว่าเป็นของห้างหุ้นส่วนสามัญฯ จำเลยเป็นคู่ความในคดีย่อมจะต้องผูกพันในผลแห่งคำพิพากษานั้นด้วย. ฉะนั้น จำเลยจะเอาเงินมาใช้แทนค่าหุ้นแล้วถอนเอาที่ดินคืนหาได้ไม่.

ย่อยาว

เดิม โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามว่า โจทก์กับจำเลยที่ 1 กับผู้มีชื่อ เข้าหุ้นส่วนกันก่อสร้างโรงสี จำเลยที่ 1 เอาที่ดินโฉนดที่ 4042, 4053 เข้าลงหุ้น ตีราคา 5,000 บาท จำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรขอให้เพิกถอนศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องและให้ห้างเลิกกันตามฟ้องแย้งจำเลย จัดการชำระบัญชีคดีถึงที่สุด และศาลตั้งผู้ชำระบัญชี ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดที่ดินโฉนดดังกล่าว อ้างว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ ไม่ใช่เป็นทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องคดีถึงศาลฎีกา ศาลฎีกาพิพากษาให้บังคับคดีตามคำสั่งศาลชั้นต้นให้เอาที่ดิน 2 โฉนดดังกล่าวขายทอดตลาด โดยศาลฎีกาฟังว่า ที่ดินรายนี้เป็นทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วน จำเลยที่ 2, 3 ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 1 นำที่ดินมาลงหุ้นตีราคา 5,000 บาท ขอนำเงิน 5,000 บาทเป็นค่าหุ้นมาวางศาลเพื่อชำระค่าหุ้น ขอให้สั่งงดขายทอดตลาด ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้อง จำเลยที่ 2, 3 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 2, 3 ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ดิน 2 โฉนดนี้ศาลฎีกาได้เคยพิพากษาไว้แล้วว่าเป็นของห้างหุ้นส่วนสามัญโรงสีไฟไทยฮั้วเฮงพาณิชย์ จำเลยทั้งสองเป็นคู่ความในคดี ย่อมจะต้องผูกพันในผลแห่งคำพิพากษานั้นด้วย จำเลยที่ 2 ที่ 3 จะเอาเงินมาใช้แทนค่าหุ้นของจำเลยที่ 1 แล้วถอนเอาที่ดิน 2 โฉนดคืนไปหาได้ไม่ จำเลยที่ 1 นำที่ดิน 2 โฉนดมาลงหุ้นไว้เป็นเวลาหลายปีแล้ว ราคาที่ดินย่อมสูงขึ้นเป็นอันมาก จำเลยจึงคิดจะเอาที่ดินคืนโดยเอาเงินชำระค่าหุ้นให้แทน เป็นการเอาเปรียบแก่หุ้นส่วนคนอื่น พิพากษายืน.

Share