คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1293/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สินค้าที่บรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึก ตามบัญชี 1 หมวด 1 ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2509 ทนายความโดยตรงถึงการจำหน่ายสินค้าในรูปลักษณะบรรจุไว้ในภาชนะหรือในหีบห่อผนึก หาใช่หมายความถึงการจำหน่ายสินค้าบรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึกเพื่อการเก็บรักษาสินค้าไม่ ดังนั้น การที่โจทก์เก็บลูกกวาดซึ่งทำด้วยน้ำตาลไม่มีกระดาษห่อหุ้มไว้ในปีบเพื่อมิให้ถูกอากาศชื้นเสียหาย จึงเป็นการเก็บรักษาสินค้า และเมื่อโจทก์จำหน่ายสินค้า โจทก์ก็นำลูกกวาดออกจากปีบมาชั่งขาย มิได้จำหน่ายไปทั้งภาชนะหรือหีบห่อผนึกสินค้าของโจทก์จึงไม่เข้าลักษณะสินค้าที่บรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึก ตามบัญชี 1 หมวด 1 (4) ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว แต่เป็นสินค้าที่ไม่ได้ระบุไว้ตามบัญชีที่ 1 ซึ่งตามมาตรา 4 (3) แห่งพระราชกฤษฎีกานั้นให้เรียกเก็บภาษีการค้าร้อยละ 0.5 ของรายรับ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำหน่ายลูกกวาดไม่ได้บรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึกชอบที่จะเสียภาษีการค้าร้อยละ ๑.๕ ของรายรับ แต่เจ้าพนักงานประเมินให้เสียภาษีในอัตราร้อยละ ๕ จึงขอให้เพิกถอน
จำเลยให้การว่า การประเมินภาษีให้โจทก์เสียเพิ่มชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งประเมิน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามบัญชี ๑ หมวด ๑ (๔) ท้ายพระราชกฤษฎีกา ฯ (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๐๙ มีข้อความว่า “นมสด ผลิตภัณฑ์ชงดื่มอาหารกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง ลูกกวาด ฯลฯ ทั้งนี้เฉพาะที่บรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึก หรือที่บรรจุภาชนะหรือหีบห่อที่มีชื่อการค้าหรือเครื่องหมายการค้า” ศาลฎีกาเห็นว่า ภาษีการค้าที่เรียกเก็บเป็นภาษีการค้าประเภทการขายของการบรรจุไว้ในภาชนะหรือในหีบห่อผนึก หาใช่หมายถึงการนำสินค้าบรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึกเพื่อการเก็บรักษาสินค้าไม่ การที่โจทก์เก็บลูกกวาดซึ่งทำด้วยน้ำตาลไม่มีกระดาษห่อหุ้มไว้ในปีบ ก็เพื่อมิให้ลูกกวาดลูกอากาศชื้นเสียหาย จึงเป็นการบรรจุภาชนะเพื่อการเก็บรักษาสินค้า แต่เมื่อโจทก์จำหน่ายสินค้า โจทก์นำลูกกวาดออกจากปีบมาชั่งขาย หรือบางครั้งลูกค้าจะยืมปีบของโจทก์ไปก่อนและนำมาคืนในภายหลัง โดยที่โจทก์มิได้จำหน่ายสินค้าไปทั้งภาชนะหรือหีบห่อผนึกสินค้าของโจทก์จึงหาเข้าลักษณะเป็นสินค้าที่บรรจุภาชนะหรือหีบห่อผนึกตามบัญชีที่ ๑ หมวด ๑ (๔) ท้ายพระราชกฤษฎีกา ฯ (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๐๙ ไม่ แต่เป็นสินค้าที่มิได้ระบุไว้ตามบัญชีที่ ๑ ซึ่งตามมาตรา ๔ (๓) แห่งพระราชกฤษฎีกา ฉบับดังกล่าวให้เรียกเก็บภาษีการค้าร้อยละ ๑.๕ ของรายรับ การเสียภาษีการค้าของโจทก์ถูกต้อง ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share