แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ทั้งเก้าอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่าอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งเก้าเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง จึงไม่รับ
โจทก์ทั้งเก้าเห็นว่า การกระทำของโจทก์ทั้งเก้าตามที่ ศาลแรงงานกลางฟังเป็นยุติแล้วนั้นไม่ครบองค์ประกอบการ กระทำความผิดตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ข้อ 47(2)และไม่เข้าลักษณะการกระทำความผิดชั้นร้ายแรง จึงเป็นการ อุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ ทั้งเก้าไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 64)
คดีทั้งเก้าสำนวนนี้ ศาลมีคำสั่งให้รวมพิจารณาพิพากษาเข้า ด้วยกัน โดยให้เรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่า โจทก์ที่ 1ถึงโจทก์ที่ 9
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นเงิน 22,680 บาท และ 1,715 บาท20,520 บาท และ 1,635 บาท,22,680 บาท และ 1,815 บาท ,10,620 บาท และ 1,620 บาท,21,250 บาท และ1,695 บาท,26,100 บาท และ 2,100 บาท,22,500 บาท และ 1,800 บาท,26,100 บาท และ 2,100 บาท,26,680 บาท และ 1,815 บาทและค่าเสียหายคนละ 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่ วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ที่ 1ถึงโจทก์ที่ 9 ตามลำดับ
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งเก้าอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์(อันดับ 60)
โจทก์ทั้งเก้ายื่นคำร้องนี้ (อันดับ 61)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของโจทก์ทั้งเก้าสรุปความได้ว่า โจทก์ทั้งเก้าโต้แย้งคำพิพากษาศาลแรงงานกลางให้ศาลฎีกา ฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามพระราชบัญญัติจัด ตั้งศาลแรงงานและ วิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์ทั้งเก้าชอบแล้ว ยกคำร้อง