แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์กู้เงินจากต่างประเทศโดยชำระดอกเบี้ยและชำระภาษีเงินได้ในดอกเบี้ยแทนผู้ให้กู้ ภาษีเงินได้ที่โจทก์ชำระแทนผู้ให้กู้นี้ เป็นประโยชน์ที่ผู้ให้กู้ได้รับอันถือได้ว่าเป็นเงินได้พึงประเมินตามประมวลกฎหมายรัษฎากรมาตรา 39 แต่ตามมาตรา 40(4) บัญญัติเฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเป็นเงินได้พึงประเมิน มิได้บัญญัติถึงภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ยที่ผู้กู้ออกแทนไป ไม่เป็นภาษีที่โจทก์ต้องหักไว้ ณ ที่จ่ายส่งอำเภอท้องที่ตาม มาตรา 70
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกเลิกการประเมินภาษีเงินได้โดยโจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามที่เจ้าพนักงานประเมิน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “โจกท์จำเลยไม่สืบพยานข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำฟ้องคำให้การว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลโดยจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดตามกฎหมายของประเทศอังกฤษ มีสำนักงานสาขาในประเทศไทย ในการดำเนินธุรกิจการค้าของสำนักงานสาขา โจทก์กู้เงินบริษัทเชลล์ปิโตรเลียมจำกัดประเทศอังกฤษเป็นเงินลงทุนหมุนเวียน โดยตกลงชำระดอกเบี้ยให้ผู้ให้กู้ตามอัตราที่กำหนดและเสียภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ยที่ได้รับนั้นแทนด้วย ในรอบปี พ.ศ. 2502, 2513, 2514 โจทก์ชำระภาษีเงินได้แทนผู้ให้กู้รวม 3,930,889 บาท 95 สตางค์ มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าการที่โจทก์ได้เสียภาษีเงินได้ในดอกเบี้ยแทนบริษัทเชลล์ปิโตรเลียมจำกัดประเทศอังกฤษไปนั้นจะถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมินอันโจทก์จะต้องหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายเพื่อนำส่งอำเภอท้องที่ตามความในมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากรหรือไม่ ถึงแม้ว่าภาษีเงินได้ที่โจทก์ออกแทนบริษัทผู้ให้กู้ในต่างประเทศจะเป็นประโยชน์อย่างอื่นที่ได้รับอันถือได้ว่าเป็นเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 39 ซึ่งเป็นบทวิเคราะห์ศัพท์ความหมายของคำว่าเงินได้พึงประเมิน แต่จะเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทใดนั้น ต้องพิจารณามาตรา 40 เป็นสำคัญ ซึ่งมาตรา 40(4) บัญญัติเฉพาะดอกเบี้ยจากเงินกู้ยืมเท่านั้นว่าเป็นเงินได้พึงประเมิน มิได้บัญญัติถึงภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ยที่ผู้กู้ออกแทนผู้ให้กู้ด้วย กรณีของโจทก์จึงไม่เข้าบทบัญญัติดังกล่าว ดังนั้น ภาษีเงินได้ในดอกเบี้ยที่โจทก์ออกแทนบริษัทเชลล์ปิโตรเลียมจำกัดไม่เป็นเงินได้พึงประเมินอันโจทก์จะต้องหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายเพื่อนำส่งอำเภอท้องที่ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 70”
พิพากษายืน