คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และผู้คัดค้านก็ยื่นคำร้องคัดค้าน ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้องและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ประเด็นแห่งข้อพิพาทจึงมีเพียงว่า ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านสมควรเป็นผู้จัดการมรดก ฉะนั้น การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านทำบัญชีทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย จึงไม่เกียวกับประโยชน์ของผู้ร้องที่มีอยู่ในคดีอันจะพึงต้องให้ศาลมีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองในระหว่างการพิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เพราะประโยชน์ของผู้ร้องอยู่ที่การจะได้เป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า นางบุญช่วย กิ่งวาที เป็นพี่ร่วมบิดามารดากับผู้ร้อง ก่อนตายนางบุญช่วยได้ทำพินัยกรรมตั้งผู้ร้องและนายนรินทร์ อัมพุช เป็นผู้จัดการมรดก จึงขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางบุญช่วยผู้ตาย
ผู้คัดค้านที่ ๑ ซึ่งเป็นพี่ร่วมบิดามารดากับผู้ร้องและนางบุญช่วย ยื่นคำร้องคัดค้านว่าผู้ร้องไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดกแต่ผู้เดียว ขอให้มีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง และตั้งผู้คัดค้านที่ ๑ เป็นผู้จัดการมรดกหรือตั้งเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้อง
ผู้คัดค้านที่ ๒ ยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านที่ ๒ เป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดก พินัยกรรมที่ผู้ร้องอ้างเป็นพินัยกรรมปลอม ผู้ร้องกับผู้คัดค้านที่ ๑ ไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก เพราะผู้ร้องเคยเป็นผู้วิกลจริต และผู้คัดค้านที่ ๑ เป็นหญิงหย่อนความสามารถในการจัดการมรดก ขอให้มีคำสั่งยกคำร้องของผุ้ร้องกับผู้คัดค้านที่ ๑ และตั้งผู้คัดค้านที่ ๒ เป็นผู้จัดการมรดก
ก่อนไต่สวนคำร้อง ผู้คัดค้านที่ ๑ ขอถอนคำร้องคัดค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาต
ในระหว่างไต่สวนพยานผู้ร้อง ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ทรัพย์มรดกของผู้ตายปะปนรวมเป็นกองเดียวกับทรัพย์สินของผู้คัดค้านที่ ๒ และผู้คัดค้านที่ ๒ ครอบครองอยู่แต่ผู้เดียว ผู้ร้องและทายาทอื่นของผู้ตายไม่อาจทราบว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายมีจำนวนมากน้อยเพียงใด ผู้คัดค้านที่ ๒ อาจยักย้ายไปให้พ้นอำนาจศาล หรือจำหน่ายจ่ายโอน ซึ่งทายาทอาจได้รับส่วนแบ่งทรัพย์มรดกน้อยลง ขอให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการ เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๖๔
ศาลชั้นต้นฟังคำแถลงคัดค้านของผู้คัดค้านที่ ๒ แล้ววินิจฉัยว่า ผู้ร้องอาจเป็นทายาทโดยพินัยกรรม หรือทายาทโดยธรรม มีสิทธิได้รับทรัพย์มรดกของผู้ตาย สมควรคุ้มครองประโยชน์ของผู้ร้องในระหว่างพิจารณา มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ ๒ ทำบัญชีทรัพย์ทั้งหมดของผู้ตายทั้งก่อนตายและหลังตาย และรายได้จากทรัพย์สินของผู้ตายยื่นต่อศาลภายใน ๓๐ วัน
ผู้ร้องคัดค้านที่ ๒ อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ยกคำร้องผู้ร้อง
ผู้ร้องฎีกาขอให้มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ ๒ ทำบัญชีทรัพย์สินมรดกของผู้ตายรวมทั้งดอกผลหรือรายได้ต่าง ๆ ที่เกิดจากทรัพย์สิน
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องกับผู้คัดค้านที่ ๒ มิได้พิพาทกันเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องเอาทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายแต่อย่างใด คงพิพาทกันเพียงว่าผู้ร้องหรือผู้คัดค้านที่ ๒ สมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ประโยชน์ของผู้ร้องในคดีนี้จึงอยู่ที่การจะได้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่การจะได้รับส่วนแบ่งในทรัพย์สินมรดกของผู้ตาย ฉะนั้น คำร้องของผู้ร้องขอให้สาลมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านที่ ๒ ทำบัญชีทรัพย์สินมรดกของผู้ตายรวมทั้งดอกผลหรือรายได้ต่าง ๆ ที่เกิดจากทรัพย์สินนี้ จึงต้องยกเสีย เพราะไม่เกี่ยวกับประโยชน์ของผู้ร้องที่มีอยู่ ในคดีนี้อันพึงจะต้องให้ศาลมีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองในระหว่างการพิจารณา หรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษา ดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖๔ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
พิพากษายืน

Share