แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงตัวเป็น อ. นายประกันของจำเลยและลงลายมือชื่อในคำร้องขอประกันตัวต่อซึ่งเป็นลายมือชื่อปลอมเป็นการหลอกลวงศาลว่ามีการประกันตัวต่อโดยชอบ ถือเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) และมาตรา 33พฤติการณ์ดังกล่าวมีลักษณะร้ายแรงเป็นภัยต่อกระบวนการยุติธรรมอันเป็นช่องทางให้จำเลยหลบหนีได้ หากศาลตรวจไม่พบการกระทำผิดของผู้ถูกกล่าวหาเสียก่อน การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการศาลเป็นอย่างมาก แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะรับราชการครูและยังมีหน้าที่ต้องอุปการะผู้อื่น ก็ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษจำคุก
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากนางสุจิตต์ มาติกานนท์ รองจ่าศาลประชาสัมพันธ์ทำหน้าที่เรื่องการประกันตัวได้รายงานเสนอในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 3460/2542 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดตรัง โจทก์ นายเริงณรงค์คงเอียด จำเลย ว่า นายอำนาจ วัฒนพานิช นายประกันไม่มาศาล นายคณิตสังหาร ผู้ถูกกล่าวหาได้แสดงตัวเป็นนายอำนาจลงลายมือชื่อในคำร้องขอประกันตัวต่อซึ่งเป็นลายมือชื่อปลอม จึงรายงานให้ศาลทราบ ศาลชั้นต้นเห็นว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 33ถือว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาลจำคุก 2 เดือน
ผู้ถูกกล่าวหาอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามีความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) และมาตรา 33นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ผู้ถูกกล่าวหาฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ถูกกล่าวหาว่า มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่ เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยเป็นนายประกันของจำเลยชั้นฝากขังมาแล้ว แต่ได้ถอนหลักทรัพย์แล้วเปลี่ยนนายประกันเป็นนายอำนาจ วัฒนพานิช และเมื่อมีการประกันตัวจำเลยต่อในชั้นพิจารณาผู้ถูกกล่าวหาได้แสดงตัวเป็นนายอำนาจลงลายมือชื่อในคำร้องขอประกันตัวต่อซึ่งเป็นลายมือชื่อปลอมเป็นการหลอกลวงศาลว่ามีการประกันตัวต่อโดยชอบพฤติการณ์ดังกล่าวมีลักษณะร้ายแรงเป็นภัยต่อกระบวนการยุติธรรมอันเป็นช่องทางให้จำเลยหลบหนีได้หากศาลตรวจไม่พบการกระทำผิดของผู้ถูกกล่าวหาเสียก่อนอีกทั้งเมื่อจำเลยหลบหนีไปก็ไม่อาจถือว่าผู้ถูกกล่าวหาผิดสัญญาประกันเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาขอถอนตัวจากการเป็นนายประกันของจำเลยแล้วส่วนจะถือว่านายอำนาจซึ่งเป็นนายประกันคนใหม่ผิดสัญญาประกันก็ไม่อาจถือได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากลายมือชื่อของนายอำนาจที่ขอประกันตัวจำเลยต่อเป็นลายมือชื่อปลอม การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการศาลเป็นอย่างมาก แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะรับราชการครูและยังมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรภริยาและบิดามารดาตามที่อ้างมาในฎีกา ก็ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำคุกผู้ถูกกล่าวหา 2 เดือน โดยไม่รอการลงโทษจำคุกนั้นเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข”
พิพากษายืน