คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1285/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ถึงแม้ฟ้องของโจทก์ไม่ได้เน้นความไว้ ของกลางที่จับได้พร้อมกับจำเลย เป็นของที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดก็ดี ย่อมต้องเข้าใจว่าเป็นสิ่งของที่แสดงถึงความผิดหรือพิรุธของจำเลยอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งอาจเป็นของที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดก็ได้ เมื่อโจทก์ขอให้ริบของกลางทั้งหมดและจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบกับสภาพของกลางว่า รายการใดพออนุมานได้ว่าจำเลยได้ใช้กระทำผิดอันเป็นของควรริบ

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ทำการเรี่ยไร โดยไม่ได้รับอนุญาตส่วนเครื่องแบบเจ้าพนักงานและใช้ยศตำแหน่งเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 84, 146, 253, 264, 265, 268พระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ. 2487 มาตรา 6 พระราชบัญญัติเครื่องแบบตำรวจ พ.ศ. 2477 มาตรา 6 พระราชบัญญัติเครื่องแบบตำรวจ(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2483 มาตรา 3 กับให้ริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์ขอลดหย่อนผ่อนโทษ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 253, 264 ให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติเครื่องแบบตำรวจ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2483 มาตรา 3 ซึ่งเป็นกระทงที่มีโทษหนักที่สุด ของกลางไม่ริบ นอกนั้นเป็นไปตามศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาขอให้ริบของกลาง

ศาลฎีกาเห็นว่า ถึงแม้โจทก์มิได้เน้นความไว้ในฟ้องว่า ของกลางที่จับได้พร้อมกับจำเลยเป็นของที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดก็ดี ย่อมต้องเข้าใจว่า เป็นสิ่งของที่แสดงถึงความผิดหรือพิรุธของจำเลยอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นสิ่งของที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดก็ได้ เมื่อโจทก์ขอให้ริบของกลางทั้งหมดและจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องก็ควรต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเท่าที่ปรากฏในคำฟ้อง ประกอบกับสภาพของกลางแต่ละรายว่ารายการใดพออนุมานได้ว่าเป็นของควรริบหรือไม่

พิพากษาแก้ให้ริบของกลางตามบัญชีอันดับ 1-6, 11-12, 14-15,18, 25, 27 นอกนั้นไม่ริบ

Share