แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่โจทก์ใช้ทางพิพาทเดินมาเพียง 6 ปี เท่านั้น(ไม่ถึง 10 ปี)ยังหาทำให้เกิดสิทธิเป็นทางภารจำยอมไม่
โจทก์ฟ้องขอให้เปิดทางภารจำยอม จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีทางในที่ของจำเลย โจทก์ไม่เคยเดินในที่จำเลยเช่นนี้ก็คือจำเลยปฏิเสธว่าไม่มีทางภารจำยอมตามฟ้องนั่นเอง เมื่อโจทก์นำสืบว่าได้เดินผ่านที่จำเลยมา 18 ปี ตั้งแต่เข้าอยู่ในที่ที่ซื้อนายปัด จำเลยก็ย่อมนำสืบคัดค้านได้ว่าโจทก์ซื้อและเข้าอยู่ในที่นายปัดเมื่อ 6 ปีมานี้เอง เป็นการสืบหักล้างพยานโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้เปิดทางเดินในที่บ้านของจำเลยเพราะที่ของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมของที่จำเลยและบุคคลอื่นทุกด้าน โดยอ้างสิทธิทางภารจำยอม
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ทางภารจำยอมโจทก์ใช้ทางสาธารณะโดยผ่านที่ผู้อื่น ไม่มีทางในที่ของจำเลย โจทก์ไม่เคยเดินในที่จำเลย
ศาลชั้นต้นเห็นว่าข้อนำสืบของจำเลยที่ว่าซื้อที่จากนายปัดเมื่อ 6 ปีมานี้จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้เป็นการนำสืบนอกข้อต่อสู้พิพากษาให้จำเลยรื้อรั้วและให้ไปจดทะเบียนเป็นทางภารจำยอม
จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์เห็นว่าตามที่จำเลยให้การเป็นการปฏิเสธว่าไม่มีทางภารจำยอมตามฟ้อง เมื่อโจทก์สืบว่าได้เดินผ่านที่จำเลยมา 18 ปี แต่เข้าอยู่ในที่ดินที่ซื้อนายปัดจำเลยจึงนำสืบคัดค้านหักล้างได้ว่าเพียง 6 ปี พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่าเมื่อ (โจทก์) ได้ซื้อที่นายปัดและได้ปลูกเรือนอยู่ โจทก์ได้ใช้ทางวิวาทเดินมา 6 ปีเท่านั้น ย่อมไม่เกิดสิทธิเป็นทางภารจำยอม และเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่าการนำสืบของจำเลยถึงข้อที่ว่าโจทก์ซื้อและเข้าอยู่ในที่ของนายปัดเมื่อ 6 ปีมานี้จำเลยย่อมสืบได้เป็นการสืบหักล้างพยานโจทก์
จึงพิพากษายืน