คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยและขอให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษคดีอาญาอื่น จำเลยให้การปฏิเสธ และมิได้มีการสอบถามในเรื่องที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ทั้งไม่ปรากฏในสำนวนว่าจำเลยเป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ดังนี้ จึงไม่อาจนับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อนั้นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕,๓๕๗ นับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๙๒๙/๒๕๒๘ ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๕ จำคุก ๑ ปี คำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก ๘ เดือน ให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๐๙๖/๒๕๒๘ ของศาลชั้นต้น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้ลักตาข่ายไปจากการครอบครองของผู้เสียหาย…..แต่คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธและมิได้มีการสอบถามในเรื่องที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ ทั้งไม่ปรากฏในสำนวนว่าจำเลยในคดีนี้เป็นจำเลยคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๙๒๙/๒๕๒๘ หมายเลขแดงที่ ๑๐๙๖/๒๕๒๘ของศาลชั้นต้นแต่อย่างใด จึงไม่อาจนับโทษจำเลยคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีดังกล่าวได้
พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ (๑)วรรคแรก จำคุก ๑ ปี คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๘ เดือน ส่วนคำขอให้นับโทษต่อให้ยก.

Share