คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการพิพากษาคดีส่วนอาญา ศาลล่างฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์สมัครใจยินยอมให้จำเลยร่วมประเวณี มิใช่ถูกจำเลยข่มขืนใจ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา เมื่อการกระทำของโจทก์เป็นเรื่องสมัครใจ จำเลยจึงมิได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยข่มขืนกระทำชำเราโจทก์ซึ่งมิใช่ภริยาจำเลย ขอเรียกค่าเสียหายต่อกายและจิตใจ เกียรติยศชื่อเสียง เป็นเงิน ๒๒,๐๐๐ บาท ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยินยอมให้จำเลยร่วมประเวณีโดยสมัครใจ มิใช่ถูกจำเลยข่มขู่ขืนใจดังฟ้อง การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด และไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายและค่าสินไหนทดแทน พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาคดีเฉพาะส่วนแพ่ง
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันว่า โจทก์สมัครใจยินยอมให้จำเลยร่วมประเวณี มิใช่ถูกจำเลยข่มขู่ขืนใจ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งนั้น ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา เมื่อศาลฟังว่าการกระทำของโจทก์เป็นเรื่องสมัครใจ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายได้
พิพากษายืน

Share