คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1279/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนี้ตามคำพิพากษา ถ้าหากเกิดขึ้นเป็นรายปีเรียงกันไป ก็ต้องบังคับเรียงกันไปตามลำดับ ส่วนใดเกิน 10 ปี การขอบังคับคดีก็ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
เมื่อมีหนี้หลายราย เงินที่ได้รับมาต้องชำระหนี้รายแรกก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 328

ย่อยาว

โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความหย่าขาดจากกันโดยตกลงให้จำเลยผู้เป็นสามีออกค่าเล่าเรียนของบุตรซึ่งอยู่กับโจทก์จนกว่าจะสำเร็จการศึกษา ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม
วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๐๔ โจทก์ร้องว่า เงินอีก ๑๐,๐๐๐ บาท ซึ่งจำเลยจะต้องชำระให้แก่โจทก์ จำเลยยังไม่ชำระ ขอให้ยึดทรัพย์ ศาลชั้นต้นสั่งยึดทรัพย์
วันที ๑๑ เมษายน ๒๕๐๕ โจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยไม่จ่ายเงินค่าเล่าเรียนบุตรตามสัญญายอม เงินค่าเล่าเรียนบุตร ๗ คน ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๐๔ รวมเป็นเงิน ๓๑,๕๐๐ บาท ขอให้ศาลจ่ายเงินจำนวนนี้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยศาลนัดไต่สวน จำเลยไม่ค้าน ครั้นสืบพยานโจทก์แล้วจำเลยกลับค้านว่าค่าเล่าเรียนที่โจทก์นำสืบสูงเกินไป จะขอสืบพยานในข้อนี้ ศาลไม่อนุญาตและกำหนดให้จำเลยใช้เงินค่าเล่าเรียนบุตรให้โจทก์ ๒๐,๐๐๐ บาท จำเลยไม่อุทธรณ์
วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๖ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลอายัดเงินที่จำเลยเป็นโจทก์ฟ้องเรียกจากบุคคลอื่นเพราะเงินที่ขายทอดตลาดได้ยังไม่พอชำระหนี้ให้โจทก์ ศาลชั้นต้นสั่งอายัดและแจ้งการอายัดให้จำเลยทราบ
วันที่ ๒๖ สิ่งหาคม ๒๕๐๘ โจทก์ยื่นคำร้องว่า ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๐๘ ต้องเสียค่าเล่าเรียนให้บุตรอีก ๕ คน รวมเงิน ๑๐,๙๕๐ บาท ขอให้อายัดเงินจำเลยในคดีแพ่งแดงที่ ๖๑/๒๕๐๕ จำเลยคัดค้าน ศาลชั้นต้นสั่งว่า โจทก์ได้ยื่นคำร้องขออายัดครั้งแรกเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๖ แม้ศาลจะสั่งอายัดไว้แล้วก็ตาม แต่คดีนี้ศาลพิพากษาเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๔๙๕ ถึงวันที่โจทก์ยื่นคำร้องขออายัดทรัพย์ครั้งแรกเกิน ๑๐ ปีแล้ว โจทก์จึงหมดสิทธิการบังคับคดีตามมาตรา ๒๗๑ ให้ยกคำร้องคำแถลงเรื่องโจทก์ขออายัดเงินในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๖๑/๒๕๐๕ ของศาลจังหวัดสมุทรปราการและให้เพิกถอนคำสั่งอายัดลงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๖ ด้วย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า หนี้ค่าเล่าเรียนอยู่ในบังคับคดี ๑๐ ปี แต่เมื่อเป็นรายปีก็ต้องบังคับเรียงกันไปตามลำดับ ส่วนใดเกิน ๑๐ ปี การขอบังคับคดีขาดอายุความ จำเลยยังค้างชำระค่าเล่าเรียนบุตรอยู่ ซึ่งยังขอให้บังคับคดีได้ เพราะยังอยู่ภายในระยะเวลา ๑๐ ปี ส่วนคำร้องลงวันที่ ๒๖ สิ่งหาคม ๒๕๐๘ จำเลยคัดค้านเพียงประเด็นเดียวว่าขาดอายุความบังคับคดี ๑๐ ปี เมื่อหนี้เงินรายนี้ยังอยู่ในอายุการบังคับคดี โจทก์ก็มีสิทธิอายัดเงินได้ พิพากษากลับ ให้อายัดเงินส่วนได้ของจำเลยในคดีแพ่งแดงที่ ๖๑/๒๕๐๕ ของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อนำมาชำระหนี้แก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เงินค่าเล่าเรียนบุตรในคดีนี้มิได้มีจำนวนแน่นอนตามตัวในวันศาลพิพากษา ย่อมเกิดขึ้นเป็นปี ๆ ไป และขึ้นอยู่แต่อายุและระยะเวลาการศึกษาของบุตร เงินค่าเล่าเรียนบุตรปีใด โจทก์ชอบที่จะบังคับคดีได้ภายในกำหนด ๑๐ ปี นับแต่ปีนั้น ๆ ไป เงินค่าเล่าเรียนบุตรระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๕ ถึง พ.ศ.๒๕๐๘ โจทก์ย่อมดำเนินการบังคับคดีเอากับจำเลยได้เมื่อมีการขายทอดตลาดที่ดินที่ถูกยึดเงินที่ได้มาจะต้องชำระหนี้รายแรกก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๒๘ ส่วนเงินค่าเล่าเรียนตั้งแต่ปี ๒๕๐๒ เป็นต้นมา จนถึงวันที่โจทก์ขออายัดเงินเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๖ ไม่ขาดอายุความการบังคับคดี เพราะถึงปีเสียค่าเล่าเรียนเมื่อใด ก็ต้องนับหนึ่งเรื่อยไปจนสิบปี จึงจะขาดอายุความบังคับคดี โจทก์ก็มีสิทธิอายัดเงินได้
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย.

Share