คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยใช้ขวานฟันผู้เสียหาย 1 ที โดยตั้งใจจะฟันที่ไหล่ พอดีผู้เสียหายหันมาจึงฟันพลาดไปถูกที่คอ และจำเลยมิได้ฟันซ้ำทั้งที่มีโอกาส ผู้เสียหายมีบาดแผลที่คอด้านหลังเพียงหนังขาดยาวราว 5 เซนติเมตร แสดงว่าขวานไม่คม ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ขวานฟันผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสและต้องทุพพลภาพเรื้อรังตลอดชีวิต โดยจำเลยมีเจตนาฆ่า แต่ผู้เสียหายได้รับการรักษาทันทีจึงไม่ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๘๐
จำเลยให้การว่าใช้ขวานฟันผู้ตายจริง แต่ไม่มีเจตนาฆ่า
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบมาตรา ๘๐ ให้จำคุก ๑๒ ปี คำรับของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่คดีอยู่บ้าง ลดให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๘ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ จำคุก ๘ ปี จำเลยให้การรับสารภาพโดยดีตลอดมา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๔ ปี
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายมาก่อน ขวานที่ใช้ฟันก็ไม่ได้ความว่ามีขนาดใหญ่อันจะทำให้ถึงตายได้หรือไม่ เมื่อพิจารณาถึงการกระทำของจำเลยต่อผู้เสียหาย คือ ใช้ขวานฟันเพียง ๑ ที ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสจะฟันซ้ำได้อีก แต่จำเลยก็มิได้ฟันซ้ำ ถึงแม้จำเลยฟันถูกตรงบริเวณคอด้านหลังซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญอาจถึงแก่ชีวิตได้แห่งหนึ่งก็ตาม แต่จำเลยได้ต่อสู้และนำสืบว่าตั้งใจฟันที่ไหล่ผู้เสียหาย เพราะไม่ต้องการให้ตาย ซึ่งผู้เสียหายเองก็เบิกความเจือสมว่าพอได้ยินเสียงดังโครมจึงหันไปดู ก็พอดีจำเลยใช้ขวานฟันลงมาแต่พลาดไปถูกที่คอ ทั้งบาดแผลที่ปรากฏออกมาเพียงหนังขาดยาวประมาณ ๕ เซนติเมตร จึงยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
พิพากษายืน.

Share