คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองเป็นลูกจ้างโจทก์ จำเลยที่ 1เป็นหัวหน้าแผนกการเงินมีหน้าที่ควบคุมดูแลให้พนักงานการเงินนำค่าโดยสารเก็บเข้าตู้เซฟ จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานการเงินมีหน้าที่ ควบคุมดูแลพนักงานการเงินแทนจำเลยที่ 1 ในกรณีที่จำเลยที่ 1 มิได้มาปฏิบัติหน้าที่ จำเลยทั้งสองไม่ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่เป็นเหตุให้พนักงานการเงินยักยอกเงินค่าโดยสารของโจทก์ไปทำให้ โจทก์เสียหาย ดังนี้ คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้งสองบกพร่องต่อหน้าที่อันเป็นการผิดสัญญาจ้างแรงงานในการควบคุมดูแลพนักงานการเงิน มีอายุความ10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 จะนำอายุความ1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 มาปรับแก่คดีไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองเป็นลูกจ้างมิได้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามที่โจทก์มอบหมาย เป็นเหตุให้พนักงานการเงินยักยอกเงินค่าโดยสารไปเป็นประโยชน์ส่วนตนและหลบหนีไป ทำให้โจทก์เสียหายซึ่งโจทก์มีคำสั่งไล่จำเลยออกจากงานแล้วขอให้บังคับให้จำเลยทั้งสองชดใช้เงินคนละ 39,803.25 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย จำเลยให้การว่าคดีโจทก์มิได้ฟ้องร้องภายใน 1 ปี ขาดอายุความแล้ว การที่พนักงานยักยอกเงินของโจทก์ไปไม่ใช่ความผิดของจำเลยทั้งสอง ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เป็นคดีอันเกิดแต่มูลละเมิด คดีของโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “โจทก์อุทธรณ์ว่า โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองตามสัญญาจ้างแรงงานที่จำเลยทั้งสองทำผิดหน้าที่อันเกิดจากสัญญาจ้างแรงงานโดยละเว้นไม่กระทำการหรือกระทำการไม่ถูกต้องหรือบกพร่องต่อหน้าที่อันควรต้องกระทำตามสัญญาจ้างแรงงานเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เป็นการฟ้องตามบทบัญญัติของมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 ซึ่งมีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 หาใช่เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายอันเกิดจากมูลละเมิด ซึ่งมีอายุความ 1 ปี ตามที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยไม่ พิเคราะห์แล้ว โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองเป็นลูกจ้างโจทก์ จำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้าแผนกการเงินมีหน้าที่ควบคุมดูแลให้พนักงานการเงินนำเงินค่าโดยสารที่ได้รับจากพนักงานเก็บค่าโดยสารแต่ละวันเก็บเข้าตู้เซฟเพื่อป้องกันการสูญหาย จำเลยที่ 2เป็นพนักงานการเงินซึ่งได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ควบคุมดูแลพนักงานการเงินแทนจำเลยที่ 1 ในกรณีที่จำเลยที่ 1 มิได้มาปฏิบัติหน้าที่ จำเลยทั้งสองไม่ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ เป็นเหตุให้พนักงานเก็บเงินยักยอกเงินค่าโดยสารของโจทก์ไป คำฟ้องของโจทก์เป็นคำฟ้องที่กล่าวหาว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดหน้าที่ บกพร่องต่อหน้าที่อันเกิดแต่สัญญาจ้างแรงงานในการควบคุมดูแลพนักงานการเงิน ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองตามสิทธิตามสัญญาจ้างแรงงานตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 8(1)มิใช่คดีฟ้องเรื่องละเมิด จึงจะนำอายุความหนึ่งปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 มาปรับแก่คดีตามที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยหาได้ไม่”
พิพากษายกคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาเฉพาะประเด็นข้อ 3 แล้วมีคำพิพากษาใหม่

Share