คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พะยานหลักฐานอื่นแสดงว่าจำเลยได้กระทำผิดในวันที่โจทก์หา แต่พะยานโจทก์เบิกความถึงวันเกิดเหตุผิดไป 1 วันเพราะความหลงลืม เนื่องจากพะยานเบิกความภายหลังวันเกิดเหตุหลายสิบวัน ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๔๙๐ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๔,๖๓. จำเลยให้การภาคเสธว่า ทำโดยป้องกันตัว ศาลชั้นต้นเห็นว่าพะยานโจทก์เบิกความว่าเหตุเกิดวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๔๙๐ จึงถือไม่ได้ว่า ในวันโจทก์หาได้มีการกระทำผิด พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พะยานโจทก์จำวันผิดไป จำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ชี้ขาดข้อเท็จจริงแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้เสียหาย นายฉัน นายประจวบ พะยานโจทก์เบิกความว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๒๒ ประมาณเดือนกว่ามาแล้ว ส.ต.ท.อำพลพะยานโจทก์ว่า พะยานได้ให้ตำรวจจับจำเลยทั้งสองในวันที่ ๒๓ กันยายน จึงเชื่อว่าเหตุเกิดวันที่ ๒๓ หาใช่วันที่ ๒๒ ดังผู้เสียหาย นายฉัน นายประจวบ เบิกความไม่ พะยานโจทก์เบิกความผิดไป ๑ วันน่าจะเป็นเพราะหลงลืม เพราะเบิกความภายหลังเกิดเหตุหลายสิบวัน ข้อเท็จจริงที่ปรากฎในทางพิจารณาจึงไม่ต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง
พิพากษายืน.

Share