แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทนต่อจาก ม.ผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนคนเดิม ถือเป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ที่จะกระทำในเวลาใดก็ได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียหายและหนังสือมอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแทน โจทก์ก็ได้ยื่นต่อศาลรวมไว้ในสำนวนตั้งแต่มอบอำนาจใหม่แล้ว กรณีไม่จำต้องแก้ไขฟ้องและระบุอ้างหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ในบัญชีพยานอีก.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้มอบอำนาจให้นายมานัส หาญเทวี ฟ้องคดีแทนโจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน8จ – 2409 กรุงเทพหมานคร ไว้จากพันโทสิทธิชัย ปลอดมีชัย จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 และเป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 85 – 0138 กรุงเทพมหานคร ของจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์บรรทุกดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2529เวลาประมาณ 21 นาฬิกา พันโทสิทธิชัยขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน8จ – 2409 กรุงเทพมหานคร ไปตามถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปสามแยกเกษตรในช่องเดินรถช่องที่ 3 ชิดเกาะกลางถนนจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 85 – 0138 กรุงเทพมหานครในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ตามหลังรถยนต์หมายเลขทะเบียน 8จ – 2409 กรุงเทพมหานครในช่องเดินรถช่องที่ 2 เมื่อพันโทสิทธิชัยขับรถไปถึงบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกด้วยความเร็วสูงแซงรถยนต์ที่พันโทสิทธิชัยขับและเปลี่ยนช่องเดินรถจากช่องที่ 2ไปช่องที่ 3 ตัดหน้ารถที่พันโทสิทธิชัยขับ แล้วหยุดรถอย่างกะทันหันเพื่อเลี้ยงขวากลับรถ พันโทสิทธิชัยไม่สามารถหยุดรถได้ทัน รถจึงพุ่งเข้าชนท้ายรถยนต์บรรทุกที่จำเลยที่ 1 ขับได้รับความเสียหายโจทก์เสียค่าลากรถยนต์และค่าซ่อมเป็นเงิน 90,574 บาท โจทก์จึงรับช่วงสิทธิในค่าเสียหายดังกล่าว โจทก์คิดดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน3,018 บาท จำเลยที่ 3 ในฐานะผู้รับประกันภัยต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน93,592 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 90,574 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้การทำนองเดียวกันว่า โจทก์จะได้มอบอำนาจให้นายมานัส หาญเทวี ดำเนินคดีแทนหรือไม่ และลายมือชื่อผู้มอบอำนาจจะเป็นลายมือชื่อที่แท้จริงหรือไม่ จำเลยที่ 2 ที่ 3 ไม่รับรองโจทก์จึงไม่มีการมอบอำนาจโดยถูกต้อง ไม่มีอำนาจฟ้อง และเหตุรถยนต์ชนกันเกิดจากความประมาทเลินเล่อของพันโทสิทธิชัย โจทก์เรียกค่าเสียหายเกินความจริง และถือโอกาสเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ทุกชิ้นหากเสียหายก็ไม่เกิน 16,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน70,450 บาท ให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2529 จนกว่าจะชำระเงินเสร็จ
จำเลยที่ 2 ที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ในปัญหาที่จำเลยที่ 2 ที่ 3ฎีกาว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายประเสริฐ หอสุวรรณจิตร ดำเนินคดีแทนโจทก์ใหม่ โจทก์มิได้ขอแก้ฟ้องและโจทก์สืบนายประเสริฐและส่งอ้างหนังสือมอบอำนาจให้นายประเสริฐดำเนินคดีแทนโดยไม่ระบุอ้างเอกสารในบัญชีพยานเป็นการไม่ชอบเห็นว่า ประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องที่จำเลยที่ 2 ที่ 3 ยกขึ้นต่อสู้นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับโจทก์มอบอำนาจให้นายมานัส หาญเทวี ไม่ถูกต้อง เมื่อโจทก์มีนายประเสริฐมาเบิกความยืนยันประกอบหนังสือมอบอำนาจว่าโจทก์ได้มอบอำนาจให้นายมานัสดำเนินคดีแทน จำเลยที่ 2 ที่ 3 มิได้สืบโต้แย้งให้เห็นเป็นอย่างอื่นจึงฟังได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายมานัสดำเนินคดีแทน ส่วนที่โจทก์มอบอำนาจให้นายประเสริฐดำเนินคดีแทนต่อจากนายมานัสก็เป็นสิทธิตามกฎหมายของโจทก์ที่จะกระทำในเวลาใดก็ได้ ไม่ทำให้ฟ้องของโจทก์เสียหาย และหนังสือมอบอำนาจให้นายประเสริฐดำเนินคดีแทน โจทก์ก็ได้ยื่นต่อศาลรวมไว้ในสำนวนตั้งแต่มอบอำนาจใหม่แล้ว กรณีนี้หาจำต้องแก้ไขฟ้องและระบุอ้างหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ในบัญชีพยานไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง…”
พิพากษายืน.