คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายเสร็จแล้วออกจากห้องไปว. เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายต่อจนเสร็จ แล้วจำเลยเข้ามาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอีก หลังจากนั้น ว. เข้ามาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายอีกสลับกันไป การข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะเช่นนี้ แม้ว่าผู้กระทำมิได้อยู่ในห้องในขณะที่คนหนึ่งข่มขืนกระทำชำเราอยู่ แต่จำเลยกับพวกได้กระทำในลักษณะติดต่อกันเป็นการสมคบกันกระทำผิดอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม 2532 เวลากลางคืนหลังเที่ยงถึงวันที่ 27 สิงหาคม 2532 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกร่วมกันใช้กำลังกอดปล้ำประทุษร้ายนางสาวบุญอ้อม ศรีมาลาผู้เสียหายซึ่งมิใช่ภริยาของตน และผลัดกันข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่หลายครั้ง โดยผู้เสียหายไม่ยินยอมและอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง เหตุเกิดที่แขวงสีกันเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 276
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง ประกอบมาตรา 83 จำคุก 20 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยข่มขืนกระทำชำเราเสร็จแล้วออกจากห้องไป นายวิสูตรเข้าไปข่มขืนกระทำชำเราต่อ เสร็จแล้วจำเลยเข้ามาข่มขืนกระทำชำเราอีก หลังจากนั้นนายวิสูตรเข้ามาข่มขืนกระทำชำเราอีกสลับกันไป การข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะเช่นนี้แม้ว่าผู้กระทำมิได้อยู่ในห้องในขณะที่คนหนึ่งข่มขืนกระทำชำเราอยู่แต่จำเลยกับพวกได้กระทำในลักษณะติดต่อกันเป็นการสมคบกันกระทำผิดอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยอายุไม่เกิน 20 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 คงจำคุก10 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share