คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เหตุที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจำเลยที่ 1 ขีดชื่อสมาคมซึ่งโจทก์เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลออกจากทะเบียนสมาคม และจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายอำเภอได้เข้าควบคุมกิจการและทรัพย์สินของสมาคมและมูลนิธิก็ เพราะสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ ฯ เพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งสมาคมและมูลนิธินี้เนื่องจากร่วมกันกระทำการเป็นไปในทางนำความเสื่อมเสียมาสู่วัฒนธรรมของชาติ และร่วมกันกระทำการอันอาจเป็นภัยกับความมั่นคงของชาติ ฯลฯ พระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ดังนั้น เมื่อคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของโจทก์มีวัตถุประสงค์ที่จะให้มูลนิธิและสมาคมได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่อไปจึงยังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษามาคุ้มครองให้โจทก์

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองฐานละเมิด เนื่องจากจำเลยที่ ๑ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดและเป็นนายทะเบียนสมาคม จำเลยที่ ๒ เป็นนายอำเภอโดยจำเลยที่ ๑ ได้ขีดชื่อสมาคมศาสนาสัมพันธ์ออกจากทะเบียนสมาคม แล้วจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ได้เข้าควบคุมกิจการและทรัพย์สินของมูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์และสมาคมศาสนาสัมพันธ์ซึ่งโจทก์เป็นเจ้าหน้าที่ดูแล ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายในฐานะละเมิดพร้อมดอกเบี้ย ให้จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ถอนอายัดทรัพย์สินของมูลนิธิ ถอนเจ้าหน้าที่ตำรวจออกจากพื้นที่ของมูลนิธิ เพิกถอนคำสั่งระงับการจ่ายเงินตามบัญชีเงินฝากให้ใส่ชื่อสมาคมในทะเบียนสมาคม พร้อมกับยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๕๔(๒)
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็คือ
(๑) ขอให้ถอนการอายัดทรัพย์สินของมูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์และสมาคมศาสนาสัมพันธ์ ถอนเจ้าหน้าที่ตำรวจออกจากพื้นที่ของมูลนิธิเพื่อให้มูลนิธิและสมาคมได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่อไป
(๒) ขอให้เปิดอาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา เพื่อให้ประชาชนทั่วไปปฏิบัติธรรมและชมปูชนียสถานและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันมีค่าทางประวัติศาสตร์
(๓) ให้ดำเนินการก่อสร้างหอประชุมสันติภาพเพื่อเตรียมประชุมสันติภาพอันถาวรของโลก
(๔) ให้จำเลยที่ ๑ ถอนคำสั่งระงับการจ่ายเงินต่อธนาคารที่มูลนิธิและสมาคมมีบัญชีอยู่ เพื่อให้ได้ดำเนินกิจการต่อไปตามวัตถุประสงค์
(๕) ขอมีคำสั่งให้จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ หยุดกระทำการเพื่อจะเป็นการจำหน่ายทรัพย์สินใด ๆ ของมูลนิธิและสมาคม
เหตุที่จำเลยที่ ๑ ขีดชื่อสมาคมศาสนาสัมพันธ์ออกจากทะเบียนสมาคมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๒๙๒(๗) และจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ได้เข้าควบคุมกิจการและทรัพย์สินของสมาคมศาสนาสัมพันธ์และมูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์ก็คือ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติได้อาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พุทธศักราช ๒๔๘๕ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒)พุทธศักราช ๒๔๘๖ มาตรา ๕ ได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งสมาคมศาสนาสัมพันธ์และเพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งมูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์ เนื่องจากมูลนิธิและสมาคมดังกล่าวร่วมกันกระทำการเป็นไปในทางนำความเสื่อมเสียมาสู่วัฒนธรรมของชาติขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน อีกทั้งได้ร่วมกระทำการอันอาจเป็นภัยกับความมั่นคงของชาติ และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ว่าด้วยการควบคุมสมาคมและองค์การต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติฯ พระราชบัญญัตินี้เป็นกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนคำขอคุ้มครองชั่วคราวตามคำร้องของโจทก์ก็มีจุดประสงค์ส่วนใหญ่ที่จะให้มูลนิธิและสมาคมได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่อไป ซึ่งตามข้อเท็จจริงที่ได้ความ ยังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะนำวิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษามาคุ้มครองให้โจทก์ตามคำร้อง
พิพากษายืน

Share