คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1207/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ประกอบธุรกิจรับจ้างโฆษณาให้แก่ลูกค้า โดยโจทก์ให้ความคิด ให้แปลนความคิดเกี่ยวกับรูปแบบ คำพูด ภาพยนตร์ เทป ซึ่งเป็นเรื่องสร้างสรรค์แนวความคิดในการออกแบบโฆษณาให้มีผู้รู้จักสินค้าของลูกค้ามากที่สุดแล้วโจทก์จ้างสื่อโฆษณาอันได้แก่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ให้ทำการโฆษณาหรือโจทก์จ้างผู้อื่นให้ผลิตวัสดุโฆษณาทำการโฆษณา การประกอบธุรกิจโฆษณาดังกล่าวโจทก์ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นคนกลางช่วยชี้ช่องให้ลูกค้าของโจทก์กับสื่อโฆษณาได้เข้าทำสัญญากันอันเป็นการกระทำของนายหน้า หรือออกเงินทดรองหรือค่าใช้จ่ายแทนลูกค้าอันเป็นการกระทำของตัวแทน จึงไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามประเภทการค้า 10นายหน้าและตัวแทน แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้า หากแต่เป็นการรับทำการงานโฆษณาโดยถือผลสำเร็จของงานเป็นสาระสำคัญ จึงเป็นการรับจ้างทำของ ต้องเสียภาษีการค้าตามประเภทการค้า 4 ชนิด 1(ฉ)การรับจ้างทำของอย่างอื่น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบการค้ารับจ้างโฆษณาให้แก่ลูกค้าเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2522 โจทก์ได้รับแจ้งการประเมินภาษีการค้าจากเจ้าพนักงานประเมินของจำเลยที่ 1 ว่าโจทก์ยื่นรายรับเพื่อเสียภาษีการค้าไว้เพียงจำนวนรายรับที่หักค่าใช้จ่ายแล้วซึ่งไม่ถูกต้อง โจทก์จะต้องยื่นรายรับเพื่อเสียภาษีการค้าจากรายรับของแต่ละเดือน ให้โจทก์เสียภาษีเพิ่ม เสียเบี้ยปรับเงินเพิ่มและเสียภาษีการค้าในประเภทการค้า 4 (ฉ) รับจ้างทำของตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 ถึง พ.ศ. 2521 รวมเป็นเงิน 12,902,392.73 บาทโจทก์ไม่เห็นด้วยจึงอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ซึ่งเป็นกรรมการในคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่า จำนวนเงินค่าจ้างที่โจทก์เรียกเก็บจากลูกค้าในร้อยละของค่าโฆษณาที่โจทก์ได้จ่ายให้เจ้าของสื่อโฆษณานั้นเป็นรายรับที่โจทก์ต้องเสียภาษีตามประเภทการค้า 10 นายหน้าและตัวแทนในอัตราร้อยละ 5.5 ของรายรับ เมื่อลดเบี้ยปรับลงบางส่วนแล้ว คงให้โจทก์เสียภาษีการค้า เบี้ยปรับ เงินเพิ่มและภาษีบำรุงเทศบาลเป็นเงิน 3,166,537.04 บาทโจทก์เห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะโจทก์รับจ้างโฆษณาเป็นการรับจ้างทำของตามประเภทการค้า 4 ต้องเสียภาษีการค้าร้อยละ 2 ของรายรับ ซึ่งโจทก์เสียไว้ถูกต้องแล้ว ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์พร้อมกับพิพากษาว่าโจทก์เสียภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลไว้ โดยชอบแล้วหากคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ชอบแล้ว ก็ขอให้งดเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
จำเลยทั้งสี่ให้การว่า รายรับของโจทก์ที่ได้รับจากการโฆษณาโดยผ่านสื่อโฆษณา เช่นวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ กับรายได้ของโจทก์ที่ได้รับจากการผลิตวัสดุในการโฆษณาโดยจ้างผู้อื่นให้เป็นผู้ผลิต โจทก์แสดงรายรับเฉพาะส่วนที่เป็นค่าบริการ ส่วนรายรับที่โจทก์ได้รับจากการผลิตวัสดุโฆษณาซึ่งโจทก์จัดทำเองโจทก์แสดงรายรับทั้งหมดที่เรียกเก็บจากลูกค้าเป็นรายรับโจทก์คำนวณรายรับจากกิจการทั้ง 3 ประเภทและยื่นเสียภาษีการค้าตามประเภทการค้า 4 การรับจ้างทำของชนิด 1 (ง) แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 2 ของรายรับซึ่งไม่ถูกต้อง กิจการรับโฆษณาของโจทก์ 2 ประเภทแรกเป็นการค้าประเภทการค้า 10 นายหน้าและตัวแทน ต้องเสียภาษีร้อยละ 5.5 ของรายรับ โจทก์ไม่มีสิทธิขอลดเบี้ยปรับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าการประกอบกิจการค้าของโจทก์ประเภทที่ 1 การโฆษณาโดยผ่านสื่อโฆษณา และประเภทที่ 2 การผลิตวัสดุโฆษณาโดยจ้างผู้อื่นทำนั้นเป็นนายหน้าและตัวแทนตามประเภทการค้า 10 แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้าหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การรับจ้างโฆษณาของโจทก์นั้น โจทก์จะให้ความคิด ให้แปลนความคิดเกี่ยวกับรูปแบบ คำพูด ภาพยนตร์ เทป เป็นเรื่องสร้างสรรค์แนวความคิดออกแบบโฆษณาให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าพอใจ โจทก์ก็ดำเนินการจัดให้มีการโฆษณาตามแนวความคิดของโจทก์ให้มีผู้รู้จักสินค้ามากที่สุดเพื่อประโยชน์ในการขายสินค้าของลูกค้าโดยโจทก์จะติดต่อกับสื่อโฆษณาอันได้แก่ วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์เอง เห็นว่า โจทก์หาได้ทำหน้าที่เป็นคนกลางช่วยชี้ช่องให้ลูกค้าของโจทก์กับสื่อโฆษณาได้เข้าทำสัญญากันอันเป็นการกระทำของนายหน้าหรือออกเงินทดรองหรือค่าใช้จ่ายแทนตัวการไม่ หากแต่ได้ดำเนินการตามความคิดของโจทก์และเข้าเป็นคู่สัญญากับสื่อโฆษณาเอง โจทก์จึงไม่ใช่เป็นนายหน้าหรือตัวแทนการรับทำการงานโฆษณาโดยถือผลสำเร็จของงานเป็นสาระสำคัญ จึงเป็นการรับจ้างทำของตามประเภทการค้า 4 ชนิด 1 (ฉ) แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้าซึ่งต้องเสียภาษีการค้าร้อยละ 2คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จึงไม่ชอบ
พิพากษายืน.

Share