คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1265/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าของเรือเดินสมุทรชื่อไตชุนชาน ซึ่งอยู่ต่างประเทศ ให้รับผิดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดแก่โจทก์ เนื่องจากความประมาทเลินเล่อของกัปตันผู้ควบคุมเรือดังกล่าว ซึ่งเป็นลูกจ้างของเจ้าของเรือ ขณะปฏิบัติหน้าที่ตามทางการที่จ้างระหว่างเข้ามาในประเทศไทย เป็นเหตุให้เรือดังกล่าวนั้นกระแทกเรือของโจทก์แตกและจมเสียหาย ตัวแทนของตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศจะต้องรับผิดตามลำพังตนเองก็แต่เฉพาะกรณีตัวแทนทำสัญญาแทนตัวการเท่านั้น ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824 ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ตัวแทนต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดที่ลูกจ้างของตัวการได้กระทำไปในหน้าที่การงานของตัวการด้วยเลย ไม่ว่าตัวการจะอยู่ต่างประเทศหรือในประเทศ ฉะนั้น จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดโดยลำพังตนเองตามที่โจทก์ฟ้อง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 987/2506)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ตกลงจ้างเรือยนต์ของจำเลยที่ ๓ ซึ่งมีจำเลยที่ ๔ เป็นกัปตันผู้คุมเรือ ให้ลากจูงเรือลำเลียงกิมซุ่นไถ่ของโจทก์ ระหว่างลากจูงไปตามลำน้ำเจ้าพระยาถึงร่องน้ำสันดอนตรงทุ่นไฟแดง ได้มีเรือเดินสมุทรไตชุนชานซึ่งมีจำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนของเจ้าของเรือ และจำเลยที่ ๒ เป็นกัปตันผู้ควบคุมเรือ แล่นสวนทางมาท้ายเรือดังกล่าวกระแทกกราบเรือของโจทก์แตกและจมลงด้วยความประมาทของจำเลยที่ ๒ และที่ ๔ ขอให้บังคับจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยที่ ๒ โจทก์ถอนฟ้อง
จำเลยที่ ๓, ๔ ให้การว่า จำเลยมิได้ประมาท ไม่ต้องรับผิด โจทก์เรียกค่าเสียหายเกินความจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระค่าเสียหายให้โจทก์ ๓๕๕,๐๐๗บาท ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๓, ๔
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๑ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนของเจ้าของเรือไตชุนชานซึ่งอยู่ต่างประเทศ มีปัญหาว่า โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ ๑ ในฐานะตัวแทนให้รับผิดในผลแห่งละเมิดซึ่งเกิดจากการกระทำของจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นลูกจ้างผู้ควบคุมเรือของตัวการได้หรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามที่โจทก์ฟ้องอ้างให้จำเลยที่ ๑ รับผิดนั้น คือโจทก์จะให้ตัวแทนของตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศต้องรับผิดตามลำพังตนเอง แต่ในกรณีเช่นนี้ตามกฎหมายอาจเป็นไปได้ก็เฉพาะในกรณีตัวแทนทำสัญญาแทนตัวการ เท่านั้น ดังที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๒๔ ได้บัญญัติไว้ไม่มีบทกฎหมายบัญญัติให้ตัวแทนต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดที่ลูกจ้างของตัวการได้กระทำไปในหน้าที่การงานของตัวการด้วยเลยไม่ว่าตัวการจะอยู่ต่างประเทศหรือในประเทศ และเอกสารหมาย จ.๔ จ.๖ ก็ไม่ใช่สัญญา ซึ่งจำเลยที่ ๑ ในฐานะตัวแทนทำสัญญาแทนตัวการ ฉะนั้นจำเลยที่ ๑ จึงไม่ต้องรับผิดโดยลำพังตนเอง ดังนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ ๙๘๗/๒๕๐๖ ระหว่างบริษัทรัตนสุรีย์ จำกัด โดยนางพัชรานาวิกผล และนายเปรม ทวีกุล กรรมการผู้จัดการ โจทก์ บริษัทเอเวอเร็ทท์สตีมชิป คอร์ปอเรชั่น จำกัด กับพวก จำเลย เหตุนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยที่ ๒ ให้รับผิดตามเหตุที่กล่าวในฟ้องได้ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่นต่อไป
พิพากษายืน

Share