คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1264/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ได้รับมอบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกรมตำรวจเพื่อใช้ในการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จำเลยย่อมมีหน้าที่รักษาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนนั้นในระหว่างที่จำเลยครอบครองอยู่ การที่จำเลยนำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยมีหน้าที่รักษานั้นไปจำนำไว้กับบุคคลอื่น ถือได้ว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น จึงเป็นการเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือเป็นของบุคคลอื่นโดยทุจริต เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และเมื่อการกระทำของจำเลยเป็นผิดตามมาตรา 147 แล้ว ก็ไม่เป็นผิดตามมาตรา 158 อีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ มีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย ได้รับมอบอาวุธปืนคาร์ปิน 1 กระบอกซองกระสุนปืน 1 ซอง และกระสุนปืนคาร์ปิน 30 นัด รวมราคา 3,070 บาทของกรมตำรวจเพื่อใช้ในการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จำเลยมีหน้าที่ดูแล ปกครอง รักษาอาวุธปืนและกระสุนปืนดังกล่าวที่รับมอบไปจากทางราชการ ได้บังอาจเบียดบัง ยักยอกเอาอาวุธปืน ซองกระสุนปืนและกระสุนปืนดังกล่าวไปเป็นของตนโดยทุจริต โดยจำเลยได้นำไปจำนำไว้กับผู้มีชื่อ ทำให้ราชการกรมตำรวจเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 158 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502 มาตรา 3

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 วางโทษจำคุก 6 เดือน คำรับชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา 78 คงจำคุก 4 เดือน

โจทก์และจำเลยฎีกา โดยโจทก์ขอให้โทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 อีกมาตราหนึ่ง จำเลยขอให้ยกฟ้อง

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้นำอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนตามฟ้องไปจำนำไว้กับสิบเอกสัมฤทธิ์ แล้ววินิจฉัยว่าพันตำรวจโทอินทร์ ยี่สาร พยานโจทก์เบิกความว่า เมื่อจำเลยรับมอบปืนและกระสุนปืนของทางราชการไปแล้ว จำเลยก็มีหน้าที่ต้องดูแลปกครองรักษามิให้สูญหายไป ถ้าเกิดการสูญหายไปจำเลยต้องรับผิดชอบจำเลยมิได้นำสืบโต้แย้งเป็นอย่างอื่น ทั้งเป็นที่เห็นได้ว่า เมื่อจำเลยได้รับมอบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปจากทางราชการเพื่อปฏิบัติราชการตามหน้าที่แล้ว จำเลยก็ย่อมมีหน้าที่รักษาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนนั้นในระหว่างที่จำเลยครอบครองอยู่การที่จำเลยนำเอาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่จำเลยมีหน้าที่รักษาไปจำนำไว้กับบุคคลอื่นถือได้ว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น จึงเป็นการเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือเป็นของบุคคลอื่นโดยทุจริตเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และเมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา 147 แล้ว ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 158 อีก

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502 มาตรา 3 ให้จำคุกจำเลยไว้ 5 ปี คำรับชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยไว้ 3 ปี 4 เดือน

Share